หน้าแรก หน้ารวมบทความ กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD

กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD


ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์   วันที่ :   จำนวนผู้เข้าชม 1079 คน

กด Like กด Share บทความให้เพื่อน

Facebook Twitter Line

     ธุรกิจหรือกิจการ SME ขนาดเล็กไม่มีการจัดทำใบกำหนดหน้าที่งาน อาจไม่สะดวกใช้การประเมินผลแบบ BSC เทคนิคง่ายๆ ในการกำหนดตัวชี้วัดผล สำหรับผู้จัดทำ KPI มือใหม่ กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD ทำอย่างไร ? 

     หากไม่มีใบกำหนดหน้าที่งาน (Job Description) ควรมีใบขอบข่ายหน้าที่ความรับผิดชอบ งานแต่ละบุคคลเพื่อให้ทราบรายละเอียดเบื้องต้นของการทำงานแต่ละตำแหน่งงาน วางเกณฑ์วัดผล KPI โดยตั้งค่าเป้าหมาย (Target) ผลงานด้วย 4 หัวข้อหลัก (Agenda) ดังนี้

     1) กำหนดตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ

         เชิงคุณภาพ หมายถึง ผลงานในแบบนามธรรม (Intangible) ดี พอใช้ ถูกต้อง พึงพอใจของผู้ปฏิบัติงานที่ยากจับต้องได้ นำมากำหนดเป็นเกณฑ์วัดผลรูปแบบเชิงปริมาณเพื่อให้การวัดผลเป็นที่ยอมรับแก่ผู้ประเมินและผู้ถูกประเมิน เช่น 

         ✎   อัตราความผิดพลาด

         ✎   จำนวนความถูกต้อง

         ✎   จำนวนความสำเร็จแต่ละแผนงาน

         ✎   จำนวนความถูกต้อง

         ✎   เปอร์เซ็นต์ความผิดพลาด

         ✎   เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จโครงการ

     2) กำหนดตัวชี้วัดเชิงปริมาณ

         เชิงปริมาณ หมายถึง ผลงานที่เป็นรูปธรรม (Tangible) จับต้องได้ สามารถวัดผลเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ เกณฑ์ประเมินผลเป็นที่ยอมรับตามข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง เช่น 

         ✎   จำนวนสินค้าที่ขายได้

         ✎   จำนวนชิ้นงานที่สมบูรณ์

         ✎   จำนวนลูกค้าใหม่

         ✎   รายได้จากลูกค้าใหม่

         ✎   เปอร์เซ็นต์ความเสียหายของสินค้าที่จัดส่ง

         ✎   จำนวนรายการคีย์ข้อมูลสินค้า

     3) กำหนดตัวชี้วัดตามระยะเวลา

         ตามระยะเวลา หมายถึง ผลงานที่วัดจาก วันที่ทำได้  ช่วงระยะเวลาที่กำหนด ชั่วโมง นาที เดือน ปี โดยการวัดผลในเรื่องนี้เน้นในเรื่องเวลาเป็นตัวกำหนดความสำเร็จ เช่น

         ✎   ทุกวันที่ 1 ของเดือน ส่งรายงานประชุมประจำเดือน

         ✎   ภายใน 24 ชั่วโมง มีการตอบกลับข้อมูลลูกค้าใหม่ทุกราย

         ✎   ก่อนวันที่ 25 ธันวาคมของปี มีการตรวจสอบสินค้าภายในคลังประจำปี

     4) กำหนดตัวชี้วัดด้านต้นทุน

         ต้นทุน หมายถึง ทรัพยากรภายในองค์กรทั้งหมด วัสดุ อุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายน้ำ-ไฟ  เวลา บุคลากรแต่ละหน่วยงาน แผนกงาน เช่น

         ✎   อัตราเทียบแต่ละเดือนค่าไฟฟ้าลดลงหลังเวลาเลิกงาน

         ✎   เทียบเปอร์เซ็นต์ของ Color Paperless 6 เดือนที่ผ่านมา

         ✎   เทียบระยะเวลาในการให้บริการผู้ป่วย OPD ในปีที่ผ่านมา

         ✎   อัตราของเหลือใช้ไม้ MDF เทียบกับต้นทุนจริงในงาน

         อย่างที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้น ในธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการมีการประเมินผลเพื่อให้ค่าตอบแทนรายบุคคล ควรกำหนดตัวชี้วัดหลักรายบุคคลอิงจาก 4 หัวข้อด้านบนได้ง่าย มีการแบ่งสัดส่วนน้ำหนักคะแนน เปอร์เซ็นต์ให้ในหัวข้อที่ทำงานจริง

ตัวอย่าง  :  ตำแหน่งช่างไม้เฟอร์นิเจอร์แผนก Production

    เลือกกำหนดตัวชี้วัดใน 3 หัวข้อหลักๆใน 4 ข้อด้านบน ได้แก่ 

    หัวข้อที่ 2 กำหนดตัวชี้วัดเชิงปริมาณ

    หัวข้อที่ 3 กำหนดตัวชี้วัดตามระยะเวลา

    หัวข้อที่ 4 กำหนดตัวชี้วัดด้านต้นทุน

     ไม่เน้นในหัวข้อที่ 1 มองว่ามีความสำคัญเช่นกันแต่รองลงมาจากข้ออื่นๆ  ซึ่งในหัวข้อที่ 1 เรื่องคุณภาพนี้ เป็นตัวชี้วัดที่หัวหน้าทีมงานของเขาเป็นผู้ถูกประเมินจากผู้จัดการ เนื่องจากในใบขอบเขตหน้าที่ของหัวหน้าคือตรวจสอบคุณภาพชิ้นงานทุกชิ้น ให้คำชี้แนะปรับปรุงแก้ไขให้เสร็จสมบูรณ์ดูแลการประกอบ ตรวจขั้นตอนนำส่งและติดตั้งหน้างานให้ครบถ้วน

        ลองนำแนวทางเฉพาะการตั้ง Indicator ไปใช้ดูนะคะ ส่วนการกำหนดสัดส่วน น้ำหนักคะแนน การให้เกรดอยู่ที่การตกลงของทีมผู้จัดทำค่ะ ควรอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง และเป็นธรรมที่ทุกคนยอมรับร่วมกันได้ ไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังการประเมิน

วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์


E-Mail : [email protected]

วันที่ : 21 ตุลาคม 2567

จำนวนผู้เข้าชม 1079 คน

กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line

บทความที่เกี่ยวข้อง


แนวคิดและประโยชน์ Competency based Performance

การมุ่งเน้นประเมินผลตัวชี้วัดหลัก KPI ตามหน้าที่ปฏิบัติงานอาจได้คนเก่ง แต่ไร้ประสิทธิภาพความสามารถในการทำงานร่วมกันเป็นทีม การประเมินด้านขีดความสามารถมีส่วนในการช่วยพัฒนาบุคลากรให้เป็นไปตามทิศ

ข้อมูลที่จำเป็นในการเตรียมทำ KPI

ก่อนการจัดทำ KPI สิ่งที่ผู้จัดทำควรเตรียมการดำเนินการ ไม่ใช่แค่มองหาเป้าหมายเลือกเฟ้นหาหลักสูตรอบรม (Training) แม้การจัดอบรมเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ขับเคลื่อนองค์ความรู้สู่บุคลากรแต่ละกลุ่ม

เปรียบเทียบการสื่อสารแบบทั่วไป และ AIDET Plus

เอเด็ต (AIDET) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการวางกรอบการสื่อสารสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มHealthcare เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับรู้แบบสองทาง (Two way communications)

ความแตกต่าง AIDET & AIDET Plus

ความแตกต่างระหว่างรูปแบบการสื่อสารของบุคลากรทางการแพทย์แบบเดิม AIDET และแบบใหม่ AIDET Plus เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร สามารถขับเคลื่อนแผนการปฏิบัติไปให้ถึงเป้าหมายการพัฒนาบุคลากร

กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD

ธุรกิจหรือกิจการ SME ขนาดเล็กไม่มีการจัดทำใบกำหนดหน้าที่งาน อาจไม่สะดวกใช้การ ประเมินผลแบบ BSC เทคนิคง่ายๆ ในการกำหนดตัวชี้วัดผล สำหรับผู้จัดทำ KPI มือใหม่ กำหนด ตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD ทำอย่างไร ?

Feedback 5 ขั้นตอนเพื่อพัฒนาตัวชี้วัด KPI

คุณสมบัติหัวหน้างานที่ดีไม่เพียงแต่จะบริหารทีมงานได้เท่านั้น การให้ฟีดแบ็ก (Feedback) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทีมงาน สร้างคนเก่งในองค์กร (Talent people) ลดอัตราการลาออก (Turnover rate)