หน้าแรก หน้ารวมบทความ Feedback 5 ขั้นตอนเพื่อพัฒนาตัวชี้วัด KPI

Feedback 5 ขั้นตอนเพื่อพัฒนาตัวชี้วัด KPI


ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์   วันที่ :   จำนวนผู้เข้าชม 394 คน

กด Like กด Share บทความให้เพื่อน

Facebook Twitter Line

     คุณสมบัติหัวหน้างานที่ดีไม่เพียงแต่จะบริหารทีมงานได้เท่านั้น การให้ฟีดแบ็ก (Feedback) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทีมงาน สร้างคนเก่งในองค์กร (Talent people) ลดอัตราการลาออก (Turnover rate)

      ฟีดแบ็ก (Feedback) หมายถึง การให้ข้อมูลป้อนกลับแก่ผู้ร่วมสนทนา แก่ผู้เหนือบังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนั้นๆ

     จุดประสงค์ เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกัน เกิดการปรับเปลี่ยน พัฒนาในข้อมูลหรือกิจกรรมที่เกิดขึ้นในทิศทางที่ดี

     Feedback ในที่กล่าวถึงนี้ เป็นขั้นตอนท้ายสุดหลังประเมินผลปฏิบัติงาน เพื่อพัฒนาตัวชี้วัด KPI ให้มีทิศทางเป้าหมาย หากผู้จัดทำให้ความใส่ใจกับขั้นตอนดำเนินงาน เครื่องมือวัดผล ตัวเลขช่วงวัดผลมากเกินไปแต่ละเลยถึงการให้ข้อมูลที่สะท้อนความเป็นจริงผู้ถูกประเมิน เท่ากับขั้นตอนของการประเมินผลยังไม่สมบูรณ์แบบ 

     ขั้นตอนการ Feedback ไม่ใช่แค่เพียงบอกผลคะแนน ผลประเมินความสำเร็จให้ทราบเท่านั้น หัวหน้าผู้ให้การ Feedback ต้องเตรียมตัวให้ชุดข้อมูลที่ครบถ้วน เพื่อให้เกิดสัมฤทธิ์ผลของการพูดคุยเพื่อการพัฒนามากกว่าการมีภาพจำที่เป็นข้อมูลเชิงลบ

     ขั้นตอน ฟีดแบ็ก (Feedback) 5 ขั้น (Five Step for Feedback) ด้วย

     “4T1R   (T-T-T-T-R)

     ขั้นตอนที่ 1 : Trust (บรรยากาศในการพูดคุยด้วยความจริงใจ)

     ในทุกครั้ง ก่อนเริ่มการพูดคุยควรให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศในการ สนทนาที่อบอุ่น ปลอดภัย มีความเชื่อใจต่อกัน ไม่มีความขัดแย้งระหว่างบุคคล

  • ทำความเข้าใจระหว่างคู่สนทนา
  • จัดห้องรับการ Feedback ที่สว่าง 
  • เงียบสงบปลอดภัย 
  • สะอาด ไม่มีกลิ่นรบกวน 
  • อยู่ในมุมที่เป็นส่วนกลาง
  • ตำแหน่งที่นั่งพูดคุยไม่ประจันหน้ากัน
  • นั่งทำมุมองศา 15 ขึ้นไปเฉียงเล็กน้อย
  • ผู้ให้และรับการ feedback มี Mindset ที่ดี 

     เช่นเดียวกันในขณะที่ชั่วโมงการ ทำงานเร่งรีบ จำนวนผู้ปฏิบัติงานไม่เพียงพอ หัวหน้าควรพักการ Feedback ไว้ก่อนเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสม

     ขั้นตอนที่ 2 : Time (ระยะเวลาการสนทนา)

     ระยะเวลาแบ่งเป็น 2 แบบ

          1) ช่วงเวลาในการFeedback

          หมายถึง การกำหนดช่วงเวลาเช้า บ่าย เย็น ช่วยให้การรับรู้ได้เต็มที่ หลักการ Feedback นี้ ให้ความสำคัญต่อการกำหนดช่วงเวลาตามนาฬิกาชีวิตของมนุษย์ (Body Clock) และการดูแลสุขภาพ  (อ่านบทความเพิ่มเติมเรื่อง นาฬิกาชีวิตเคล็ดลับหย่างเชิงสุขภาพ  Cr.คลินิกแพทย์แผนจีนหัวเฉียว)  นั่นคือ ช่วงที่เหมาะสมในการรับการ Feedback 7.00 - 9.00 เป็นช่วงสมองเปิดรับการทำงานสิ่งดีๆ อาหารดีๆเข้าร่างกาย ช่วงเวลา 9.00 – 17.00 น. เหมาะแก่การ Feedback หลังจาก 17.00 น.ไปแล้วสมองเกิดความเหนื่อยล้าในงาน ไม่ควรจัดชั่วโมง Feedback เพราะ % ในการรับรู้น้อยลง  เว้นเสียแต่หลีกเลี่ยงเวลาดังกล่าวไม่ได้เนื่องจากพนักงานว่างจากการปฏิบัติงาน

          2) ระยะเวลาใช้ในการFeedback    

          หมายถึง รอบระยะเวลาที่ใช้ในการ Feedback ไม่ควรเร่งรีบ น้อยไปหรือลากยาวเกินไป แต่ละบุคคลใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีมีความเหมาะสมต่อการพูดคุยสาระสำคัญให้จบ ดังนั้น ผู้ให้การ Feedback ต้องเตรียมข้อมูลให้ครบถ้วนทั้ง 3 ช่วง ช่วงที่ 1 การเปิดการสนทนาที่ไม่อ้อมค้อม ช่วงที่ 2 กล่าวถึงเนื้อหาอย่างกระชับและช่วงที่ 3 กล่าวปิดจบการสนทนาให้ภาพจำ

     ขั้นตอนที่ 3 : Total Evaluation (ให้ข้อมูลประเมินผลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ)

     หมายถึง ข้อมูลเนื้อหาการพูดคุยในช่วงที่ 2 ให้มุมมองทั้งเชิงปริมาณ (Quantity) เช่นการอ้างอิงข้อมูลจำนวน ตัวเลข % รอบเวลาและกล่าวปิดข้อมูลเชิงคุณภาพ (Quality) ในช่วงปิดการสนทนา เช่น ข้อดี - ข้อเสีย ดีมาก - พอใช้ - ปรับปรุงแก้ไข    

     ขั้นตอนที่ 4 : Tool (ใช้เครื่องมือเสริมแรง)

     หมายถึง เครื่องมือ (tool) เพื่อการพัฒนาบุคลากรต่อเนื่องหลังการจบ Feedback เพื่อให้ผู้รับการ Feedback ได้ เสริมแรงเชิงบวกเพื่อการพัฒนาเติบโต เช่น การฝึกอบรม (Training)  การสับเปลี่ยนหมุนเวียนงาน (Rotation) การฝึกปฏิบัติจริงในหน้าที่งาน (On the job training) การสาธิต (Demonstration) บทบาทสมมุติ (Role play) ฝึก/ดูงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง (Benchmarking) การติดตามฝึกกับผู้ชำนาญงาน (Shadowing) * ใช้กรณีตำแหน่งงานเฉพาะทาง (Specialist Position)

     ขั้นตอนที่ 5 : Rewards (ให้การจูงใจด้วยรางวัลที่แตกต่าง)

     หมายถึง รางวัลทั้งในรูปแบบรูปธรรมและนามธรรม ในที่นี้ รูปธรรมคือรางวัล เช่น สิ่งของ ตำแหน่งงาน โบนัส การจัดกิจกรรมสังสรรค์ภายในองค์กร การจัดสัมมนา นอกสถานที่ (Outing) ส่วนนามธรรมคือการให้รางวัลด้วยคำชื่นชม ชื่นชอบ ความพึงพอใจ 

ทำไมกันนะ ? … หัวหน้างานกลัวการ Feedback

กลัวผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการบอกข้อมูล

กลัวการไม่ได้รับการยอมรับจากผู้ใต้บังคับบัญชา

Feedbackเป็นแค่กิจกรรมธรรมเนียมของบริษัท

Feedback ไม่เป็น…. ทั้งที่มีประโยชน์มากมาย

     กระบวนการ Feedback ที่ถูกต้อง ครบถ้วน ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย การถ่ายทอดช่วงสนทนาในลักษณะ Coaching & Consulting ช่วยให้กระบวนการรับฟังของผู้ร่วมสนทนา เกิดแรงบันดาลใจ มีบรรยากาศสร้างสรรค์   

     อย่าลืมนะคะ ในช่วงใกล้รอบปิดประเมินแต่ละไตรมาส หรือประเมินปลายปี หัวหน้างานทุกท่านลองใช้ 5 ขั้นตอนนี้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน บางครั้ง ที่ลูกน้องไม่เก่ง ไม่คล่องงาน เขาอาจยังไม่ทราบจุดอ่อนที่แท้จริงในตัวเองเป็นได้ค่ะ …

วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์


E-Mail : [email protected]

วันที่ : 14 ตุลาคม 2567

จำนวนผู้เข้าชม 394 คน

กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line

บทความที่เกี่ยวข้อง


กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD

ธุรกิจหรือกิจการ SME ขนาดเล็กไม่มีการจัดทำใบกำหนดหน้าที่งาน อาจไม่สะดวกใช้การ ประเมินผลแบบ BSC เทคนิคง่ายๆ ในการกำหนดตัวชี้วัดผล สำหรับผู้จัดทำ KPI มือใหม่ กำหนด ตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD ทำอย่างไร ?

Feedback 5 ขั้นตอนเพื่อพัฒนาตัวชี้วัด KPI

คุณสมบัติหัวหน้างานที่ดีไม่เพียงแต่จะบริหารทีมงานได้เท่านั้น การให้ฟีดแบ็ก (Feedback) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทีมงาน สร้างคนเก่งในองค์กร (Talent people) ลดอัตราการลาออก (Turnover rate)

อบรม ESB & AIDET Plus แก้ปัญหาการบริการและการสื่อสาร ?

อบรมพฤติกรรมบริการ (ESB) ไปแล้ว การเรียนรู้หลักสูตรเรื่อง AIDET Communications จำเป็นหรือไม่ ? AIDET เนื้อหาการเรียนรู้เรื่องอะไร ? นี่คือคำถามที่ผู้จัดอบรมในคลินิก และโรงพยาบาลหลายแห่ง

ทฤษฎีตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์และการบริการ

การเลือกใช้สินค้า และบริการนั้นเกิดจากการเรียนรู้ของผู้เลือกใช้ อาจมาจากข้อมูลสื่อโฆษณาในช่องทางต่างๆ ประสบการณ์คำบอกเล่า ประสบการณ์ตรงที่ได้รับมาจากผู้ใช้บริการ

ตัวอย่างตัวชี้วัด KPI ตามตำแหน่ง & ปัญหาระยะ Action Plan

ระบบประเมินผล KPI ช่วยทำให้องค์กรคัดเลือกคนเก่งโดยอัตโนมัติ คุมงบประมาณให้อยู่ในกรอบและเพิ่มกลยุทธ์ในการแข่งขัน หากวางระบบการดำเนินการ(Action Plan)ที่ดี ผู้บริหารสูงสุดเห็นความสำคัญ

Human Touch In Healthcare ด้วย Touching & Feeling

Human Touch ถูกพูดถึงในการดูแลรักษาสุขภาพ มุมมองการมีจิตบริการมานาน ควบคู่กับคำว่า Empathy (การเอาใจใส่) ซึ่งหากพูดถึงแง่การลงมือปฏิบัติงาน Human Touch มีแนวทางนำไปใช้ได้อย่างไร ?