ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์ วันที่ : 11 เมษายน 2567 จำนวนผู้เข้าชม 226 คน
11 เมษายน 2567ในช่วงที่ผู้เขียนได้ฝึกงานและทำวิจัยหัวข้อเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในโรงพยาบาลต่างประเทศ ได้สังเกต รวมถึงศึกษาวัฒนธรรมการดูแลผู้รับบริการของบุคลากรทางการแพทย์หลายกลุ่ม ทั้งการปฏิสัมพันธ์ของผู้ปฏิบัติงาน การทำงานระหว่างแผนก การดูแลผู้ป่วย การพูดคุยกับญาติ
พบว่า ข้อดีกระบวนการทำงานโรงพยาบาลในต่างประเทศคือ บุคลากรทุกตำแหน่งในโรงพยาบาลให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงาน ทุกขั้นตอนตามวิชาชีพ การดูแลรักษาอย่างเที่ยงธรรมเคร่งครัดมาก แต่ยังขาดความเข้าถึงความเอาใจใส่ดูแล รับฟังผู้รับบริการ โดยเฉพาะในเคสผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน การสนทนาปราศรัยกับญาติผู้ป่วยแทบจะเป็นเรื่องท้ายๆ ในการอธิบายเพื่อให้เขาเหล่านั้นคลายจากความวิตกกังวล
ปัญหาการร้องเรียน (Complaints) ขาดการสื่อสารการอธิบายต่อญาติ พบมากในหน่วยงาน Emergency Room (ER) อาจเพราะด้วยจำนวนเคสผู้ป่วยมากเทียบกับเจ้าหน้าที่ มี ความเร่งด่วนแออัด (Overcrowding) การรักษาความปลอดภัยชีวิตของผู้ป่วยมีเวลาเป็นเดิมพัน โดยเฉพาะผู้ป่วย Emergency Severity Index (ESI) Level 1-Level 2 ซึ่งเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ ต้องได้รับการรักษาให้ทันท่วงที เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีเวลามากเพื่ออธิบายญาติเท่าไรนัก
มุ่งให้การรักษาตามแผนการรักษาผู้ป่วยเป็นอันดับแรก ขาดการอธิบาย ให้ความใส่ใจญาติผู้รอคอยความหวังการกลับมาเป็นปกติ ทำให้การไม่อธิบายแผนการรักษาที่จะเกิดขึ้น การเว้นช่วงระยะเวลาการรอคอยแบบไม่มีจุดหมายนี้ ส่งผลกระตุ้นต่ออารมณ์โกรธ โมโหของญาติอาจมีโวยวาย ว้าวุ่นฉุนเฉียว ญาติบางคนอาจเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ให้เสียงโกรธดังขึ้นแค่เพียง “ภายในใจ” ระบายแก่คนรอบข้างเล่าสู่กันฟัง แบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ในทางลบ ทำให้โรงพยาบาลไม่มีโอกาสได้รับรู้ความเข้าใจหรืออธิบายเหตุผลเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ผู้เขียนรับรู้ได้ด้วยสายตาแห่งการรอคอยการรับการรักษาของผู้ป่วยและญาติ จึงตระหนักรู้จากเหตุการณ์ที่พบเจอได้ว่าทำไม ? งานวิจัยหลายชิ้นในต่างประเทศและบางฉบับในไทยให้ความสำคัญกับการศึกษากระบวนการสื่อสารแบบ AIDET ทั้งที่กระบวนการสื่อสาร 5 ขั้นตอนนี้ แทบทุกโรงพยาบาลปฏิบัติกันเป็นประจำอยู่แล้วแต่มิได้นำมาร้อยเรียงเป็นต้นแบบในการสื่อสารในบริบทที่ต้องมีการพบเจอผู้รับบริการแต่ละแผนก การสนทนาการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจแบบ Two Way Communication สำคัญมากต่อการสร้างเกราะกำบังการร้องเรียนในสถานพยาบาล สร้างผนังกำแพงอันแข็งแกร่งให้เกิดขึ้นแก่ญาติผู้ป่วย ให้รอคอยด้วยความหวัง ด้วยกำลังใจอย่างไม่มีเงื่อนไขข้อสงสัย พบว่าปัจจุบันเจ้าหน้าใช้การสื่อสารแบบทางเดียว (One Way Communication)
กระบวนการสื่อสารแบบ AIDET 5 ขั้นตอน (กล่าวไปแล้วในบทความเรื่อง AIDETสร้างภาพลักษณ์ในงานบริการ) ซึ่งในบทความนี้ เพิ่มอีกหนึ่งหัวข้อคือ Plus The Promise
|
ผู้เขียนเชื่อแน่ว่า กระบวนการสื่อสารแบบ AIDET Plus นี้ ช่วยสร้างมาตรฐานการสื่อสารของบุคลากรทางการแพทย์ ขับเคลื่อนการสื่อสารแบบจิ๊กซอว์ ไล่เรียงความสำคัญการสื่อสารอย่างสอดคล้องกัน เจ้าหน้าที่ในทุกตำแหน่งมุ่งเห็นคุณค่าทุกประโยคในการสื่อสารแบบ เข้าถึง (Psychology) รู้ซึ้ง (Empathy) สัมผัส (Human Touch)
|
พื้นฐานการให้บริการในโรงพยาบาล หลักการให้บริการแต่ละที่มุ่งเน้นผู้รับบริการหรือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางการทำงาน การใช้หลัก Service Mind อาจไม่เพียงพอที่สามารถฝึกฝนให้บุคลากรมีคุณภาพการให้บริการเท่าเทียมกันทุกคน เนื่องจากความพึงพอใจใจผู้รับบริการมีระดับความพอใจต่างกัน ผู้รับบริการบางคนอาจมีความคาดหวังสูงดังนั้นจึงตั้งค่าความคาดหวังมากกว่าทั่วไป บางคนไม่ได้คาดหวังการให้บริการเมื่อได้รับการดูแลในระดับทั่วไปอาจไม่ได้มีผลต่อการร้องเรียน
อีกทั้งบุคลากรมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตามช่วงเวลา เมื่อคนเปลี่ยนพฤติกรรมการบริการอาจเปลี่ยนไปตามผู้ปฏิบัติงาน สิ่งที่จะเป็นตัวแปรสำคัญจะคงไว้ให้การบริการคงรูปคงตัวได้ไม่ว่าคนเปลี่ยนไปแต่มาตรฐานคงที่คือการจัดทำโมเดลการบริการ แนะนำเริ่มจาก 3 เรื่องการจัดทำเบื้องต้น คือ
E-Mail : [email protected]
วันที่ : 11 เมษายน 2567
จำนวนผู้เข้าชม 226 คน
กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line
ตัวอย่างตัวชี้วัด KPI ตามตำแหน่ง & ปัญหาระยะ Action Plan
ระบบประเมินผลKPI ช่วยทำให้องค์กรคัดเลือกคนเก่งโดยอัตโนมัติ คุมงบประมาณให้อยู่ในกรอบและเพิ่มกลยุทธ์ในการแข่งขัน หากวางระบบการดำเนินการ(Action Plan)ที่ดี ผู้บริหารสูงสุดเห็นความสำคัญ มอบหมายผู้รับผิดชอบ
Human Touch In Healthcare ด้วย Touching & Feeling
Human Touch ถูกพูดถึงในการดูแลรักษาสุขภาพ มุมมองการมีจิตบริการมานาน ควบคู่กับคำว่า Empathy (การเอาใจใส่) ซึ่งหากพูดถึงแง่การลงมือปฏิบัติงาน Human Touch มีแนวทางนำไปใช้ได้อย่างไร ?
บุคลิกภาพท่ายืนเดินนั่งที่สง่างาม
“อิริยาบถท่าทางที่สง่างามช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ชวนมอง ไม่ว่าท่านทำงานในตำแหน่งใด ควรได้เรียนรู้พื้นฐาน 3 เรื่องนี้ไว้ทั้งการยืน เดิน นั่ง ซึ่งเป็นบุคลิกพื้นฐานที่ฝึกฝนให้ดูดีได้ไม่ยาก ”
ประโยชน์การสื่อสารแบบ AIDET
ในช่วงที่ผู้เขียนได้ฝึกงานและทำวิจัยหัวข้อเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในโรงพยาบาลต่างประเทศ ได้สังเกต รวมถึงศึกษาวัฒนธรรมการดูแลผู้รับบริการของบุคลากรทางการแพทย์หลายกลุ่ม ทั้งการปฏิสัมพันธ์ของผู้ปฏิบัติงาน
จิตวิทยาบริการ
หลัก “จิตวิทยาบริการ (Service Psychology)” ได้รับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาบุคลากรและทรัพยากรในภาคธุรกิจบริการ อุตสาหกรรมภาคการบริการมาช้านาน การทำงานที่ต้องมีการติดต่อ สื่อสารส่งผ่านบุคคล
เทคนิคการพูดเพิ่มภาวะผู้นำ
คำพูดเป็นปราการด่านแรกแห่งความสำเร็จในอาชีพ เป็นการแสดงออกด้วยวจนภาษาดึงดูดผู้คนเข้ามาสนใจหรือผลักออกไปจากจากวงโคจรชีวิต โดยเฉพาะงานที่ให้บริการทั้งทางแบบออนไลน์ ออฟไลน์ ล้วนแล้วแต่ต้องใช้ทักษะการพูด