ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์ วันที่ : 11 เมษายน 2567 จำนวนผู้เข้าชม 1506 คน
11 เมษายน 2567ในช่วงที่ผู้เขียนได้ฝึกงานและทำวิจัยหัวข้อเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในโรงพยาบาลต่างประเทศ ได้สังเกต รวมถึงศึกษาวัฒนธรรมการดูแลผู้รับบริการของบุคลากรทางการแพทย์หลายกลุ่ม ทั้งการปฏิสัมพันธ์ของผู้ปฏิบัติงาน การทำงานระหว่างแผนก การดูแลผู้ป่วย การพูดคุยกับญาติ
พบว่า ข้อดีกระบวนการทำงานโรงพยาบาลในต่างประเทศคือ บุคลากรทุกตำแหน่งในโรงพยาบาลให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงาน ทุกขั้นตอนตามวิชาชีพ การดูแลรักษาอย่างเที่ยงธรรมเคร่งครัดมาก แต่ยังขาดความเข้าถึงความเอาใจใส่ดูแล รับฟังผู้รับบริการ โดยเฉพาะในเคสผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน การสนทนาปราศรัยกับญาติผู้ป่วยแทบจะเป็นเรื่องท้ายๆ ในการอธิบายเพื่อให้เขาเหล่านั้นคลายจากความวิตกกังวล
ปัญหาการร้องเรียน (Complaints) ขาดการสื่อสารการอธิบายต่อญาติ พบมากในหน่วยงาน Emergency Room (ER) อาจเพราะด้วยจำนวนเคสผู้ป่วยมากเทียบกับเจ้าหน้าที่ มี ความเร่งด่วนแออัด (Overcrowding) การรักษาความปลอดภัยชีวิตของผู้ป่วยมีเวลาเป็นเดิมพัน โดยเฉพาะผู้ป่วย Emergency Severity Index (ESI) Level 1-Level 2 ซึ่งเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ ต้องได้รับการรักษาให้ทันท่วงที เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีเวลามากเพื่ออธิบายญาติเท่าไรนัก
มุ่งให้การรักษาตามแผนการรักษาผู้ป่วยเป็นอันดับแรก ขาดการอธิบาย ให้ความใส่ใจญาติผู้รอคอยความหวังการกลับมาเป็นปกติ ทำให้การไม่อธิบายแผนการรักษาที่จะเกิดขึ้น การเว้นช่วงระยะเวลาการรอคอยแบบไม่มีจุดหมายนี้ ส่งผลกระตุ้นต่ออารมณ์โกรธ โมโหของญาติอาจมีโวยวาย ว้าวุ่นฉุนเฉียว ญาติบางคนอาจเก็บงำความรู้สึกนี้ไว้ให้เสียงโกรธดังขึ้นแค่เพียง “ภายในใจ” ระบายแก่คนรอบข้างเล่าสู่กันฟัง แบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ในทางลบ ทำให้โรงพยาบาลไม่มีโอกาสได้รับรู้ความเข้าใจหรืออธิบายเหตุผลเป็นจริงที่เกิดขึ้น
ผู้เขียนรับรู้ได้ด้วยสายตาแห่งการรอคอยการรับการรักษาของผู้ป่วยและญาติ จึงตระหนักรู้จากเหตุการณ์ที่พบเจอได้ว่าทำไม ? งานวิจัยหลายชิ้นในต่างประเทศและบางฉบับในไทยให้ความสำคัญกับการศึกษากระบวนการสื่อสารแบบ AIDET ทั้งที่กระบวนการสื่อสาร 5 ขั้นตอนนี้ แทบทุกโรงพยาบาลปฏิบัติกันเป็นประจำอยู่แล้วแต่มิได้นำมาร้อยเรียงเป็นต้นแบบในการสื่อสารในบริบทที่ต้องมีการพบเจอผู้รับบริการแต่ละแผนก การสนทนาการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจแบบ Two Way Communication สำคัญมากต่อการสร้างเกราะกำบังการร้องเรียนในสถานพยาบาล สร้างผนังกำแพงอันแข็งแกร่งให้เกิดขึ้นแก่ญาติผู้ป่วย ให้รอคอยด้วยความหวัง ด้วยกำลังใจอย่างไม่มีเงื่อนไขข้อสงสัย พบว่าปัจจุบันเจ้าหน้าใช้การสื่อสารแบบทางเดียว (One Way Communication)
กระบวนการสื่อสารแบบ AIDET 5 ขั้นตอน (กล่าวไปแล้วในบทความเรื่อง AIDETสร้างภาพลักษณ์ในงานบริการ) ซึ่งในบทความนี้ เพิ่มอีกหนึ่งหัวข้อคือ Plus The Promise
|
ผู้เขียนเชื่อแน่ว่า กระบวนการสื่อสารแบบ AIDET Plus นี้ ช่วยสร้างมาตรฐานการสื่อสารของบุคลากรทางการแพทย์ ขับเคลื่อนการสื่อสารแบบจิ๊กซอว์ ไล่เรียงความสำคัญการสื่อสารอย่างสอดคล้องกัน เจ้าหน้าที่ในทุกตำแหน่งมุ่งเห็นคุณค่าทุกประโยคในการสื่อสารแบบ เข้าถึง (Psychology) รู้ซึ้ง (Empathy) สัมผัส (Human Touch)
|
พื้นฐานการให้บริการในโรงพยาบาล หลักการให้บริการแต่ละที่มุ่งเน้นผู้รับบริการหรือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางการทำงาน การใช้หลัก Service Mind อาจไม่เพียงพอที่สามารถฝึกฝนให้บุคลากรมีคุณภาพการให้บริการเท่าเทียมกันทุกคน เนื่องจากความพึงพอใจใจผู้รับบริการมีระดับความพอใจต่างกัน ผู้รับบริการบางคนอาจมีความคาดหวังสูงดังนั้นจึงตั้งค่าความคาดหวังมากกว่าทั่วไป บางคนไม่ได้คาดหวังการให้บริการเมื่อได้รับการดูแลในระดับทั่วไปอาจไม่ได้มีผลต่อการร้องเรียน
อีกทั้งบุคลากรมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนตามช่วงเวลา เมื่อคนเปลี่ยนพฤติกรรมการบริการอาจเปลี่ยนไปตามผู้ปฏิบัติงาน สิ่งที่จะเป็นตัวแปรสำคัญจะคงไว้ให้การบริการคงรูปคงตัวได้ไม่ว่าคนเปลี่ยนไปแต่มาตรฐานคงที่คือการจัดทำโมเดลการบริการ แนะนำเริ่มจาก 3 เรื่องการจัดทำเบื้องต้น คือ
E-Mail : [email protected]
วันที่ : 11 เมษายน 2567
จำนวนผู้เข้าชม 1506 คน
กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line
กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD
ธุรกิจหรือกิจการ SME ขนาดเล็กไม่มีการจัดทำใบกำหนดหน้าที่งาน อาจไม่สะดวกใช้การ ประเมินผลแบบ BSC เทคนิคง่ายๆ ในการกำหนดตัวชี้วัดผล สำหรับผู้จัดทำ KPI มือใหม่ กำหนด ตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD ทำอย่างไร ?
Feedback 5 ขั้นตอนเพื่อพัฒนาตัวชี้วัด KPI
คุณสมบัติหัวหน้างานที่ดีไม่เพียงแต่จะบริหารทีมงานได้เท่านั้น การให้ฟีดแบ็ก (Feedback) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทีมงาน สร้างคนเก่งในองค์กร (Talent people) ลดอัตราการลาออก (Turnover rate)
อบรม ESB & AIDET Plus แก้ปัญหาการบริการและการสื่อสาร ?
อบรมพฤติกรรมบริการ (ESB) ไปแล้ว การเรียนรู้หลักสูตรเรื่อง AIDET Communications จำเป็นหรือไม่ ? AIDET เนื้อหาการเรียนรู้เรื่องอะไร ? นี่คือคำถามที่ผู้จัดอบรมในคลินิก และโรงพยาบาลหลายแห่ง
ทฤษฎีตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์และการบริการ
การเลือกใช้สินค้า และบริการนั้นเกิดจากการเรียนรู้ของผู้เลือกใช้ อาจมาจากข้อมูลสื่อโฆษณาในช่องทางต่างๆ ประสบการณ์คำบอกเล่า ประสบการณ์ตรงที่ได้รับมาจากผู้ใช้บริการ
พฤติกรรมบริการต่อลูกค้าทั่วไป คลินิก โรงพยาบาล
การบริการไม่ใช่สินค้าที่สามารถคงรูปรส กลิ่น เสียงได้เมื่อเปลี่ยนผู้ให้บริการพฤติกรรมการส่งมอบบริการอาจเปลี่ยนไปตามลักษณะของบุคคลนั้น สิ่งที่ทำให้พฤติกรรมการบริการคงที่คงอยู่นั้นคือ การสร้าง Empathy
การสื่อสารแบบ AIDET Plus ทุกแผนกในโรงพยาบาลทำอย่างไร ?
ในอดีตผู้ปฏิบัติงานมีหน้าที่ปฏิบัติงานตามหลักใบกำหนดหน้าที่งาน (Job Descriptions) โดยปฏิบัติงานแต่ละหน้าที่ตามขั้นตอนงาน (Work Instruction) ที่จัดทำขึ้นมาจากมาตรฐานของแต่ละวิชาชีพตามหลักการความปลอดภัย