ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์ วันที่ : 08 มีนาคม 2566 จำนวนผู้เข้าชม 895 คน
08 มีนาคม 2566คำว่าทำ KPI “สำเร็จ” ในที่นี้ใช่ว่ามีตัวชี้วัดผลงานตามกรอบราชการ กรอบองค์กรบริษัทกำหนด ? แท้จริงการจัดทำKPI “สำเร็จ” ไม่ใช่บอกเพียงตัวเลขเป้าหมายหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าเล่มรายงานสรุปผล เชิงปริมาณ (Qualitative) เชิงคุณภาพ (Quality) หรือวัดแบบระดับขั้นความสำเร็จ (Milestone) ตามเป้าหมาย
ใช่ที่ท่านเคยพบเจอแบบนี้หรือไม่ ?
ความหมาย“สำเร็จ” ในระบบ PMS ทาง KPI คือ ?
1. การได้มาซึ่งตัวดัชนีชี้วัดผลงานหลัก(KPI) มาจากหน้าที่ปฏิบัติงานจริง
มิใช่ ปลูกผักชีโรยหน้าแค่ขอให้มีระบบวัดผลตามกรอบองค์การ
2. ตัวชี้วัดแผนกหรือส่วนงานมาจากผลของการบริหารจัดการหัวหน้า/ผู้บังคับบัญชานั้น
มิใช่ มาจากการกำหนดโดยหัวหน้านั่งเทียน ลักไก่ย้อนตัวเลขคิดเอง
3. การตั้งตัวชี้วัดแผนกสอดคล้องกับเป้าหมายหลักองค์กร
มิใช่ มาจากหน่วยงาน/แผนกนั้นทำงานที่ควรจะเป็น
4. ผู้ประเมินและผู้ถูกประเมินมีความเข้าใจระบบประเมินผลตรงกัน
มิใช่ หัวหน้าคิดเข้าใจอีกทาง ลูกน้องเข้าใจอีกทาง สุดท้ายเกิดคลื่นใต้น้ำอย่างเงียบๆรอวันปะทุ
5. เกิดการ Feedbackผลประเมินอย่างสร้างสรรค์
มิใช่ เกิดความขุ่นเคือง ไม่สบายใจเนื่องจากผลประเมินต่ำหรือสูงเกินความเป็นจริง
6. ผู้บังคับบัญชาสูงสุดในหน่วยงานมีความเข้าใจหลักการวัดผลอย่างถ่องแท้
มิใช่ ผู้บังคับบัญชาขาดความเข้าใจ มองตัวชี้วัดเป็นภาระงาน เลือกเก็บเฉพาะตัวชี้วัดง่ายๆ
7. เป้าหมายตัวชี้วัดต้องท้าทาย เลื่อนขั้นเป็นลำดับแต่ละปี
มิใช่ ตั้งเป้าหมายในช่องค่าคะแนนที่ตนเองทำได้ ถือเป็นค่าคะแนนสูงสุด 5 คะแนน ในการการตั้งค่าเป้าหมายที่ถูกต้องค่าคะแนนที่ทำได้อยู่ช่องคะแนน 3 , ช่องคะแนน 4 คือทำได้ดีเกินค่าปัจจุบัน ,ช่องคะแนน 5 คือ ทำได้ดีเกินคาดหมาย
การจัดทำดัชนีชี้วัดผลงาน ไม่ว่าจะเป็นการประเมินส่วนราชการ การประเมินภาคธุรกิจบริษัทเอกชน มีแนวทางการประเมินและกรอบการวัดโดยหลักการไม่แตกต่างกันมาก แม้มิติการวัดระบบเอกชนอาจเน้นด้านปัจจัยสร้างผลกำไรเป็นสำคัญ และมิติการวัดหรือกรอบการวัด จัดกลุ่มการวัดผลไปในทิศทางใดมากกว่ากันตามรูปแบบธุรกิจ
ตัวอย่างการประเมินผู้บริหารองค์การหรือประเมินส่วนงานในส่วนราชการ
- วัดมิติด้านประสิทธิผล (Effectiveness)
- วัดมิติด้านประสิทธิภาพ (Efficiency)
- วัดมิติด้านคุณภาพการให้บริการ (Quality of Service)
- วัดมิติด้านพัฒนาองค์การ (Organization Development)
สามารถนำมาเก็บเป็นตัวชี้วัดได้ แม้ไม่อยู่ในภารกิจหลักแต่คือภารกิจพิเศษที่ต้องทำ
ตัวอย่างการประเมินผู้บริหารองค์กร ผู้จัดการหรือหัวหน้างาน
- The Financial Perspective : มุมมองด้านการเงิน ลูกหนี้ กระแสเงินสด การบริหารการเงิน-งบประมาณ
- The Customer Perspective : มุมมองด้านสิ่งที่กระทบต่อลูกค้าภายใน-ภายนอกองค์กร โดยตรงทั้ง การร้องเรียน การบริการก่อน-หลังการซื้อขาย ความพึงพอใจ การแก้ปัญหาในการบริการ
- The Business /Internal Process Perspective : มุมมองด้านกระบวนการทำงานตามJob Description มุมมองการทำงานตามประสิทธิภาพ-ประสิทธิผลของงาน
- The Learning and Growth Perspective : มุมมองด้านการเรียนรู้และการพัฒนาเติบโต ทั้งการบริหารจัดการ การคุมทีมงาน การพัฒนาทีมงานทั้งการฝึกอบรมด้านองค์ความรู้ (Knowledge),ทักษะ (Skills),ทัศนคติ (Attitude )
สามารถนำมาเก็บเป็นตัวชี้วัดได้ แม้ไม่อยู่ในภารกิจหลักแต่คือภารกิจพิเศษที่ต้องทำ
จากเนื้อหาที่ได้กล่าวมาข้างต้น ความสำเร็จในการจัดทำ KPI เริ่มแรกนั้นนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมี KPI ใช้ในองค์กร แต่สิ่งที่ทำให้ KPIสำเร็จเริ่มแรกคือต้องสร้างกระบวนการให้ความเข้าใจ โดยการอบรม Workshop ในกลุ่มระดับ Top to Down ให้ทุกระดับเข้าใจตัวชี้วัดตรงกัน เห็นความสำคัญมากกว่าภาระงานส่วนเกิน จึงค่อยๆจัดทำขั้นตอนอื่นๆต่อไป
หากจัดทำระบบประเมินผลงานจริงจัง ผู้บริหารสูงสุดในทุกฝ่ายงานมีความร่วมมือร่วมใจ จะพบว่าการมีตัวชี้วัดผลงานทำให้ประมวลหาผลงานทุกตำแหน่งงานง่ายขึ้น ทราบศักยภาพขีดความสามารถแต่ละหน่วยงาน แต่ละบุคคล รวมถึงเป็นการสร้างแรงจูงใจ(Motivate)ในการทำงาน เกิดความร่วมมือร่วมใจในทีมงานมากกว่าคือภาระงานการเก็บสถิติของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
หลายครั้งที่ผู้เขียนพบว่า บางองค์กรนำการวัดผลงานมาใช้เพื่อตอบโจทย์การประเมินผลคัดคน สร้างระบบให้องค์การมีมาตรฐาน มากกว่าการมีระบบวัดผลงานเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน ผลลัพธ์ที่ได้คือ KPI ทำให้งานยุ่งมาก มีขั้นตอนวุ่นวาย เสียเวลางานหลัก ประชุมอบรมบ่อย ส่งลูกน้องไปอบรมตัวชี้วัดตามคำร้องขอของฝ่ายฝึกอบรม ทำๆไปตามหน้าที่เพราะถึงอย่างไรเมื่อประเมินผลก็ได้คะแนนตามเกณฑ์อยู่แล้ว เรื่องนี้ฟังแล้วเสียดายงบประมาณและเป็นกับดักการเรียนรู้เติบโตยิ่งนัก
หากหัวหน้างานมองไม่เห็นการทำระบบประเมินผลเป็นเครื่องมือพัฒนาบุคลากร เท่ากับองค์กรยังไปไม่ถึงคำว่าทำ KPI สำเร็จ !!
มองภาพรวมตั้งแต่ปี 2545 การทำระบบบริหารผลการปฏิบัติงาน PMS ในไทยและทั่วโลกแล้ว KPI กำลังจะถูกเปลี่ยนภาพไปเป็นแนวคิดการบริหารผลงานอย่างต่อเนื่องแบบ Objectives and Key Results (OKRs) ในอีกไม่ช้านี้
ยิ่งบริบทแนวคิด OKRs เป็นการกำหนดโดยเน้นการบริหารทำงานตามไตรมาส วัดผลลัพธ์จากงานจริงสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักองค์กร วัดเร็วตอบโจทย์เร็ว กำหนดจากล่างขึ้นบน (Down to Top) เรียกว่าลูกน้องคิดเอง ทำเองส่งผลการทำงานให้หัวหน้าช่วยโค้ช เราจะไปถึงตรงนั้นได้หรือไม่?
ส่วนราชการและเอกชนหลายแห่ง จะปรับเปลี่ยนไปในทิศทางใด เมื่อใช้ OKRs บริหารผลงานจริงทั้งหมด !!
E-Mail : [email protected]
วันที่ : 08 มีนาคม 2566
จำนวนผู้เข้าชม 895 คน
กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line
แนวคิดและประโยชน์ Competency based Performance
การมุ่งเน้นประเมินผลตัวชี้วัดหลัก KPI ตามหน้าที่ปฏิบัติงานอาจได้คนเก่ง แต่ไร้ประสิทธิภาพความสามารถในการทำงานร่วมกันเป็นทีม การประเมินด้านขีดความสามารถมีส่วนในการช่วยพัฒนาบุคลากรให้เป็นไปตามทิศ
ข้อมูลที่จำเป็นในการเตรียมทำ KPI
ก่อนการจัดทำ KPI สิ่งที่ผู้จัดทำควรเตรียมการดำเนินการ ไม่ใช่แค่มองหาเป้าหมายเลือกเฟ้นหาหลักสูตรอบรม (Training) แม้การจัดอบรมเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ขับเคลื่อนองค์ความรู้สู่บุคลากรแต่ละกลุ่ม
เปรียบเทียบการสื่อสารแบบทั่วไป และ AIDET Plus
เอเด็ต (AIDET) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการวางกรอบการสื่อสารสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มHealthcare เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับรู้แบบสองทาง (Two way communications)
ความแตกต่าง AIDET & AIDET Plus
ความแตกต่างระหว่างรูปแบบการสื่อสารของบุคลากรทางการแพทย์แบบเดิม AIDET และแบบใหม่ AIDET Plus เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร สามารถขับเคลื่อนแผนการปฏิบัติไปให้ถึงเป้าหมายการพัฒนาบุคลากร
กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD
ธุรกิจหรือกิจการ SME ขนาดเล็กไม่มีการจัดทำใบกำหนดหน้าที่งาน อาจไม่สะดวกใช้การ ประเมินผลแบบ BSC เทคนิคง่ายๆ ในการกำหนดตัวชี้วัดผล สำหรับผู้จัดทำ KPI มือใหม่ กำหนด ตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD ทำอย่างไร ?
Feedback 5 ขั้นตอนเพื่อพัฒนาตัวชี้วัด KPI
คุณสมบัติหัวหน้างานที่ดีไม่เพียงแต่จะบริหารทีมงานได้เท่านั้น การให้ฟีดแบ็ก (Feedback) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทีมงาน สร้างคนเก่งในองค์กร (Talent people) ลดอัตราการลาออก (Turnover rate)