ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์ วันที่ : 01 มกราคม 2564 จำนวนผู้เข้าชม 21962 คน
01 มกราคม 2564การค้นหาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเราไม่อาจคาดคะเนได้นั้น อาจมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง วิธีการค้นหาที่ดีที่สุดคือการระดมแนวคิดจากกลุ่มผู้ร่วมทำงานจริง เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่เกิดขึ้น ณ จุดนั้น เพื่อหาวิธีหรือเครื่องมือที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาที่พบ ซึ่งหลักการเขียนแผนภูมิก้างปลานั้น ได้รับการพัฒนาครั้งแรกปี ค.ศ. 1943 โดย ศาสตราจารย์ คาโอรุ อิชิกาว่า แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว ในบางครั้งเรียก แผนผังอิชิกาว่า (Ishikawa Diagram)
ตัวอย่าง “โรงงานทอผ้าไหมแห่งหนึ่ง พบว่า พนักงานในสายการทอขึ้นลายผ้าไหม แต่ละคนมีระยะเวลาการทอเร็วช้าต่างกันมาก อายุงานเทียบเท่ากัน แต่ละเดือนมีผลิตภัณฑ์ที่มาจากตัวไหมไม่เท่ากันแตกต่างไปตามฤดูกาล ในฤดูร้อนตัวไหมมีจำนวนน้อย ในฤดูหนาวไหมมีจำนวนมากขึ้น ดังนั้น วิธีการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นควรแยกปัญหาเป็นข้อๆ เช่น 1.ปัญหาพนักงานทอผ้าเร็วช้าต่างกัน 2.ปัญหาตัวไหมมีจำนวนน้อยในฤดูร้อน นำแต่ละข้อมาหาปัจจัยที่เกี่ยวข้องให้คบถ้วนและดำเนินการหาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับข้อ 2 ต่อไป“
การทำแผนภูมิก้างปลา ช่วยให้ค้นหาหลายๆปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับปัญหา และรวบรวมนำข้อมูลมาหาวิธีแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม
แต่การทำแผนผังหรือ แผนที่ความคิด (Mind Mapping) เป็นการจัดระเบียบความคิด ที่กระจัดกระจายแนวคิดที่เกี่ยวข้องให้เป็นระเบียบหนึ่งเดียว เป็นเครื่องมือด้านรวบรวมความคิดที่ได้รับการออกแบบ โดยเลียนแบบการทำงานของสมอง คิดค้นโดยชาวอังกฤษ ชื่อ โทนี บูซาน
ในกรณี ต้องการวิเคราะห์หา สาเหตุ (Cause) ของปัญหาที่เกิดขึ้น จึงนิยมใช้หลักการค้นหาแบบ ทำแผนภูมิก้างปลา (Fish-Bone Diagram) หรือบางตำราเรียก แผนผังก้างปลา เหมาะสมที่สุด
ส่วน ปัญหาหรือผลลัพธ์ (Problem or Effect) จะแสดงอยู่ที่หัวปลา
ส่วน สาเหตุ (Causes) จะสามารถแยกย่อยออกได้อีกเป็น
๐ ปัจจัย (Factors) ที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาจะเขียนไว้ที่ก้างหลักของตัวปลา
๐ สาเหตุหลัก จะเขียนไว้ต่อปัจจัยในก้างหลักแต่ละก้าง
๐ สาเหตุย่อย จะเขียนไว้ย่อยต่อจากก้างหลัก ซึ่งอาจมีย่อยต่อหลายข้อได้ไม่มีบังคับ
โดยสาเหตุของปัญหา จะเขียนไว้ในก้างปลาแต่ละก้าง ก้างย่อยเป็นสาเหตุของก้างรองและก้างรองเป็นสาเหตุของก้างหลัก
วิธีการสร้างแผนภูมิก้างปลา
สิ่งสำคัญต้องทำ คือ ทำเป็นทีมหรือเป็นกลุ่ม โดยใช้ขั้นตอน 6 ขั้นตอน
1. กำหนดประโยคปัญหาที่หัวปลา (ให้ทำการกำหนดในเชิงลบ) ปัญหาละ 1 หัวปลาต่อปลา 1 ตัว
2. กำหนดกลุ่มปัจจัยนำเข้าที่ทำให้เกิดปัญหานั้นๆ ที่บริเวณก้างปลาหลัก
(ปัญหาการผลิตใช้หลัก 4 M 1E : Man,Machine,Material,Method,Environment)
(ปัญหาสินค้า การทำงานใช้หลัก 4P :Place ,Procedure,People,Policy)
(ปัญหากระบวนการผลิตใช้หลัก 4S :Surrounding, Supplier, System ,Skill)
(ปัญหาการบริหารใช้ MILK : Management, Information, Leadership, Knowledge)
3. ระดมสมองหาสาเหตุหลัก ของปัญหาแต่ละก้างรอง
4. ระดมสมองเพื่อหาสาเหตุย่อย ในแต่ละปัจจัยที่ก้างย่อย
5. จัดลำดับความสำคัญของสาเหตุเป็นข้อๆ
6. เลือกสาเหตุของปัญหา มาทำการแก้ไขปรับปรุงด้วย เครื่องมือ(Tools) การพัฒนาต่างๆ เช่น ไคเซน 5ส P D C A ระบบคัมบัง SOP ISO จัดทำคู่มือปฏิบัติงาน เป็นต้น
ในการทำแผนภูมิก้างปลานั้น ยิ่งระดมแนวคิดหลักแนวคิดย่อย ได้มากเท่าไรยิ่งเป็นผลดีต่อการวิเคราะห์หาเครื่องมือการแก้ปัญหา ในหัวปลานั้นได้ง่ายตรงจุด มากที่สุด
ดังนั้นผู้เขียนแนะนำว่า การเขียนแผนภูมิก้างปลาจึงเป็นการวิเคราะห์หา เครื่องมือ(Tools) ที่เหมาะสม ในการพัฒนาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ช่วยให้ผู้บริหาร หัวหน้างาน พนักงาน พบข้อบกพร่องหรือข้อแก้ไขได้ดีเยี่ยมทีเดียว ทั้งการทำงานด้านอุตสาหกรรมภาคการผลิต หรือการทำงานในสำนักงาน
อย่างไร คุณผู้อ่านลองนำวิธีการไปปรับปรุงแก้ไข ให้เหมาะสมกับรูปแบบปัญหา เชื่อแน่ว่า คุณจะสนุกกับการหาปลาที่มีสารอาหาร โปรตีนและโอเมก้าหลากหลาย อย่างแน่นอน !!!!
ขอบคุณภาพ ปลาสวยๆกลุ่มงอมแงม@Bestrade Precision Limited www.jackyibizcoach.com www.mindtools.com |
E-Mail : [email protected]
วันที่ : 01 มกราคม 2564
จำนวนผู้เข้าชม 21962 คน
กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line
แนวคิดและประโยชน์ Competency based Performance
การมุ่งเน้นประเมินผลตัวชี้วัดหลัก KPI ตามหน้าที่ปฏิบัติงานอาจได้คนเก่ง แต่ไร้ประสิทธิภาพความสามารถในการทำงานร่วมกันเป็นทีม การประเมินด้านขีดความสามารถมีส่วนในการช่วยพัฒนาบุคลากรให้เป็นไปตามทิศ
เปรียบเทียบการสื่อสารแบบทั่วไป และ AIDET Plus
เอเด็ต (AIDET) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการวางกรอบการสื่อสารสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มHealthcare เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับรู้แบบสองทาง (Two way communications)
จิตวิทยาบริการและประโยชน์การเรียนรู้
จิตวิทยาการบริการ (Service Psychology) ไม่ใช่ศาสตร์ใหม่ด้านวิชาการเพื่อการทำงาน แต่หมายความรวมถึงการมีองค์ความรู้ด้านการให้บริการที่หลากหลายประกอบไปด้วยศาสตร์และศิลป์ที่ผู้ให้บริการพึงเรียนรู้
การถ่ายทอดลำดับการสื่อสารเชิงลึกงาน Healthcare
การถ่ายทอดลำดับการสื่อสารเชิงลึกงาน Healthcare (In-Depth communications in Healthcare) เมื่อไรก็ตามที่คุณใช้รูปแบบการสื่อสารแบบ AIDET Plus+ ในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน ผู้ป่วยและครอบครัว
ความแตกต่าง AIDET & AIDET Plus
ความแตกต่างระหว่างรูปแบบการสื่อสารของบุคลากรทางการแพทย์แบบเดิม AIDET และแบบใหม่ AIDET Plus เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร สามารถขับเคลื่อนแผนการปฏิบัติไปให้ถึงเป้าหมายการพัฒนาบุคลากร
หลักสูตรการสื่อสาร AIDET Plus communications สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
ยุค MK6.0 การจัดอบรมสำหรับบุคลากรสายงานสุขภาพทุกตำแหน่งในงานด้าน Healthcare เปลี่ยนไปในรูปแบบเน้นการสื่อสาร(Communication)กับผู้รับบริการให้มากขึ้น มีการเชื่อมโยงทั้งด้านการสัมผัสด้วยตาและรับรู้ด้วยใจ