หน้าแรก หน้ารวมบทความ ตัวอย่างกำหนดสัดส่วนค่าน้ำหนักตัวชี้วัดผลงาน

ตัวอย่างกำหนดสัดส่วนค่าน้ำหนักตัวชี้วัดผลงาน


ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์   วันที่ :   จำนวนผู้เข้าชม 1873 คน

กด Like กด Share บทความให้เพื่อน

Facebook Twitter Line

   “การออกแบบใบประเมินผลนิยมจัดทำแบบผสมผสาน เป็นการประเมินจากหลายมิติมารวมกันทั้งการประเมินด้านผลลัพธ์การปฏิบัติงาน พฤติกรรมความสามารถและเวลาปฏิบัติงาน” 

   ในการปฏิบัติงานตามตำแหน่งหน้าที่งานแต่ละงานมีลักษณะเฉพาะ ทั้งด้านการบริหารจัดการ หน้าที่ความรับผิดชอบการปฏิบัติงาน ผลลัพธ์เป้าหมายที่ได้ตามหน้าที่งาน ทำให้การออกแบบกำหนดสัดส่วนค่าน้ำหนักตัวชี้วัดผลงานอาจมีความแตกต่างกันตามตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบ

   ผู้บริหารแต่ละระดับอาจเน้นไปที่ผลลัพธ์ของงาน(หรือปริมาณผลผลิตที่ได้)มากกว่าขีดความสามารถและเวลาการทำงาน ส่วนผู้ปฏิบัติงานเน้นความรับผิดชอบเวลาการทำงานและขีดความสามารถของงานมากกว่าผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งนี้การกำหนดสัดส่วนขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบในการกำหนดเป้าหมายที่ต้องการตรงตามวัตถุประสงค์ขององค์กร 

   ทั้งนี้การให้สัดส่วนน้ำหนักที่ตัวชี้วัดแบบใดมากกว่ากันนั้น พิจารณาข้อมูลการกำหนดสัดส่วนตามนโยบายหลักขององค์กรทิศทางผู้บริหาร สภาวะการแข่งขันทางเศรษฐกิจ คู่แข่งทางการค้า ข้อมูลการจัดทำตัวชี้วัดที่ผ่านมาอย่างน้อย 1 รอบปี และลักษณะงานจริงตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในใบกำหนดหน้าที่งาน (Job Description : JD)  

   ไม่จำเป็นให้ทุกตำแหน่งทุกระดับมีค่าสัดส่วนเท่ากันทั้งองค์กรและมีการวัดผลทั้ง 3 มิติทุกตำแหน่ง ทั้งนี้การกำหนดน้ำหนักนั้นต้องได้รับการเห็นชอบจากทีมบริหารและผู้บริหารองค์กรสูงสุด ในการจัดทำถือเป็นมติที่ชอบอย่างเป็นรูปธรรม  ดังตัวอย่างกำหนดน้ำหนักสัดส่วนของตัวชี้วัด 2 รูปแบบตามตาราง 1.1 และ ตาราง 1.2 แนบด้านล่าง

ตาราง 1.1 :  ตัวอย่างการแบ่งค่าน้ำหนักตัวชี้วัดเน้นผลลัพธ์ (KPIs) ขีดความสามารถ (Competency) 

     จากตาราง 1.1 เห็นได้ว่าไม่วัดผลเรื่องเวลาการทำงาน เน้นผลลัพธ์ของผลงานและเน้นวัดขีดสมรรถนะความสามารถ(พฤติกรรม)   เหมาะสำหรับองค์กรที่ยืดหยุ่นในเรื่องเวลาการทำงาน มุ่งให้ความสำคัญกับผลงานมากกว่าเรื่องเวลาการเข้างาน ตามแนวทางการจัดการทรัพยากรบุคคลยุคHR 5.0 ในเรื่อง ความยืดหยุ่นในการทำงาน (อ่านบทความเพิ่มเรื่อง แนวทางวางแผนอัตรากำลังยุคHR 5.0 (Agile Workforce Planning for HR 5.0)

ตาราง 1.2 ตัวอย่างการแบ่งค่าน้ำหนักตัวชี้วัดเน้นผลลัพธ์ (KPIs) ขีดความสามารถ (Competency) และเวลาปฏิบัติงาน (Time Attendance)

     จากตาราง 1.2 เห็นได้ว่า ผู้บริหารตั้งแต่ระดับต้นถึงระดับสูงสุดไม่มีการวัดผลเรื่องเวลาการทำงาน ให้ความสำคัญเรื่องผลลัพธ์และพฤติกรรมความสามารถ (โดยแบ่งสัดส่วนวัดทั้ง Core Competency & Managerial Competency) ส่วนระดับพนักงานทุกระดับมีการวัดผลทั้ง 3 ด้าน คือ KPIs  Competency Time Attendance โดยเฉพาะในระดับตำแหน่งล่างสุดในตาราง คือ พนักงานปฏิบัติงานทั่วไป(ระดับบริการ,พนักงานรายวัน) เป็นระดับที่มีเน้นเฉพาะงานด้านการบริการทั่วไป มีคุณวุฒิการศึกษาไม่อยู่ในเกณฑ์กำหนดเป็นพนักงานหรือเป็นชาวต่างชาติ ทำงานรายวัน เน้นการกำหนดน้ำหนักรวม 60% วัดทางด้านพฤติกรรมและเวลาการรับผิดชอบงานมากกว่าผลงานที่ทำได้

วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์


E-Mail : [email protected]

วันที่ : 10 ตุลาคม 2566

จำนวนผู้เข้าชม 1873 คน

กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line

บทความที่เกี่ยวข้อง


กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD

ธุรกิจหรือกิจการ SME ขนาดเล็กไม่มีการจัดทำใบกำหนดหน้าที่งาน อาจไม่สะดวกใช้การ ประเมินผลแบบ BSC เทคนิคง่ายๆ ในการกำหนดตัวชี้วัดผล สำหรับผู้จัดทำ KPI มือใหม่ กำหนด ตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD ทำอย่างไร ?

Feedback 5 ขั้นตอนเพื่อพัฒนาตัวชี้วัด KPI

คุณสมบัติหัวหน้างานที่ดีไม่เพียงแต่จะบริหารทีมงานได้เท่านั้น การให้ฟีดแบ็ก (Feedback) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทีมงาน สร้างคนเก่งในองค์กร (Talent people) ลดอัตราการลาออก (Turnover rate)

อบรม ESB & AIDET Plus แก้ปัญหาการบริการและการสื่อสาร ?

อบรมพฤติกรรมบริการ (ESB) ไปแล้ว การเรียนรู้หลักสูตรเรื่อง AIDET Communications จำเป็นหรือไม่ ? AIDET เนื้อหาการเรียนรู้เรื่องอะไร ? นี่คือคำถามที่ผู้จัดอบรมในคลินิก และโรงพยาบาลหลายแห่ง

ตัวอย่างตัวชี้วัด KPI ตามตำแหน่ง & ปัญหาระยะ Action Plan

ระบบประเมินผล KPI ช่วยทำให้องค์กรคัดเลือกคนเก่งโดยอัตโนมัติ คุมงบประมาณให้อยู่ในกรอบและเพิ่มกลยุทธ์ในการแข่งขัน หากวางระบบการดำเนินการ(Action Plan)ที่ดี ผู้บริหารสูงสุดเห็นความสำคัญ

Human Touch In Healthcare ด้วย Touching & Feeling

Human Touch ถูกพูดถึงในการดูแลรักษาสุขภาพ มุมมองการมีจิตบริการมานาน ควบคู่กับคำว่า Empathy (การเอาใจใส่) ซึ่งหากพูดถึงแง่การลงมือปฏิบัติงาน Human Touch มีแนวทางนำไปใช้ได้อย่างไร ?

ประโยชน์การสื่อสารแบบ AIDET

ในช่วงที่ผู้เขียนได้ฝึกงานและทำวิจัยหัวข้อเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในโรงพยาบาลต่างประเทศ ได้สังเกต รวมถึงศึกษาวัฒนธรรมการดูแลผู้รับบริการของบุคลากรทางการแพทย์หลายกลุ่ม ทั้งการปฏิสัมพันธ์ของผู้ปฏิบัติงาน