ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์ วันที่ : 10 ตุลาคม 2566 จำนวนผู้เข้าชม 852 คน
10 ตุลาคม 2566“การออกแบบใบประเมินผลนิยมจัดทำแบบผสมผสาน เป็นการประเมินจากหลายมิติมารวมกันทั้งการประเมินด้านผลลัพธ์การปฏิบัติงาน พฤติกรรมความสามารถและเวลาปฏิบัติงาน”
ในการปฏิบัติงานตามตำแหน่งหน้าที่งานแต่ละงานมีลักษณะเฉพาะ ทั้งด้านการบริหารจัดการ หน้าที่ความรับผิดชอบการปฏิบัติงาน ผลลัพธ์เป้าหมายที่ได้ตามหน้าที่งาน ทำให้การออกแบบกำหนดสัดส่วนค่าน้ำหนักตัวชี้วัดผลงานอาจมีความแตกต่างกันตามตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
ผู้บริหารแต่ละระดับอาจเน้นไปที่ผลลัพธ์ของงาน(หรือปริมาณผลผลิตที่ได้)มากกว่าขีดความสามารถและเวลาการทำงาน ส่วนผู้ปฏิบัติงานเน้นความรับผิดชอบเวลาการทำงานและขีดความสามารถของงานมากกว่าผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งนี้การกำหนดสัดส่วนขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบในการกำหนดเป้าหมายที่ต้องการตรงตามวัตถุประสงค์ขององค์กร
ทั้งนี้การให้สัดส่วนน้ำหนักที่ตัวชี้วัดแบบใดมากกว่ากันนั้น พิจารณาข้อมูลการกำหนดสัดส่วนตามนโยบายหลักขององค์กรทิศทางผู้บริหาร สภาวะการแข่งขันทางเศรษฐกิจ คู่แข่งทางการค้า ข้อมูลการจัดทำตัวชี้วัดที่ผ่านมาอย่างน้อย 1 รอบปี และลักษณะงานจริงตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในใบกำหนดหน้าที่งาน (Job Description : JD)
ไม่จำเป็นให้ทุกตำแหน่งทุกระดับมีค่าสัดส่วนเท่ากันทั้งองค์กรและมีการวัดผลทั้ง 3 มิติทุกตำแหน่ง ทั้งนี้การกำหนดน้ำหนักนั้นต้องได้รับการเห็นชอบจากทีมบริหารและผู้บริหารองค์กรสูงสุด ในการจัดทำถือเป็นมติที่ชอบอย่างเป็นรูปธรรม ดังตัวอย่างกำหนดน้ำหนักสัดส่วนของตัวชี้วัด 2 รูปแบบตามตาราง 1.1 และ ตาราง 1.2 แนบด้านล่าง
จากตาราง 1.1 เห็นได้ว่าไม่วัดผลเรื่องเวลาการทำงาน เน้นผลลัพธ์ของผลงานและเน้นวัดขีดสมรรถนะความสามารถ(พฤติกรรม) เหมาะสำหรับองค์กรที่ยืดหยุ่นในเรื่องเวลาการทำงาน มุ่งให้ความสำคัญกับผลงานมากกว่าเรื่องเวลาการเข้างาน ตามแนวทางการจัดการทรัพยากรบุคคลยุคHR 5.0 ในเรื่อง ความยืดหยุ่นในการทำงาน (อ่านบทความเพิ่มเรื่อง แนวทางวางแผนอัตรากำลังยุคHR 5.0 (Agile Workforce Planning for HR 5.0)
จากตาราง 1.2 เห็นได้ว่า ผู้บริหารตั้งแต่ระดับต้นถึงระดับสูงสุดไม่มีการวัดผลเรื่องเวลาการทำงาน ให้ความสำคัญเรื่องผลลัพธ์และพฤติกรรมความสามารถ (โดยแบ่งสัดส่วนวัดทั้ง Core Competency & Managerial Competency) ส่วนระดับพนักงานทุกระดับมีการวัดผลทั้ง 3 ด้าน คือ KPIs Competency Time Attendance โดยเฉพาะในระดับตำแหน่งล่างสุดในตาราง คือ พนักงานปฏิบัติงานทั่วไป(ระดับบริการ,พนักงานรายวัน) เป็นระดับที่มีเน้นเฉพาะงานด้านการบริการทั่วไป มีคุณวุฒิการศึกษาไม่อยู่ในเกณฑ์กำหนดเป็นพนักงานหรือเป็นชาวต่างชาติ ทำงานรายวัน เน้นการกำหนดน้ำหนักรวม 60% วัดทางด้านพฤติกรรมและเวลาการรับผิดชอบงานมากกว่าผลงานที่ทำได้
E-Mail : [email protected]
วันที่ : 10 ตุลาคม 2566
จำนวนผู้เข้าชม 852 คน
กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line
ตัวอย่างตัวชี้วัด KPI ตามตำแหน่ง & ปัญหาระยะ Action Plan
ระบบประเมินผลKPI ช่วยทำให้องค์กรคัดเลือกคนเก่งโดยอัตโนมัติ คุมงบประมาณให้อยู่ในกรอบและเพิ่มกลยุทธ์ในการแข่งขัน หากวางระบบการดำเนินการ(Action Plan)ที่ดี ผู้บริหารสูงสุดเห็นความสำคัญ มอบหมายผู้รับผิดชอบ
Human Touch In Healthcare ด้วย Touching & Feeling
Human Touch ถูกพูดถึงในการดูแลรักษาสุขภาพ มุมมองการมีจิตบริการมานาน ควบคู่กับคำว่า Empathy (การเอาใจใส่) ซึ่งหากพูดถึงแง่การลงมือปฏิบัติงาน Human Touch มีแนวทางนำไปใช้ได้อย่างไร ?
ประโยชน์การสื่อสารแบบ AIDET
ในช่วงที่ผู้เขียนได้ฝึกงานและทำวิจัยหัวข้อเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในโรงพยาบาลต่างประเทศ ได้สังเกต รวมถึงศึกษาวัฒนธรรมการดูแลผู้รับบริการของบุคลากรทางการแพทย์หลายกลุ่ม ทั้งการปฏิสัมพันธ์ของผู้ปฏิบัติงาน
จิตวิทยาบริการ
หลัก “จิตวิทยาบริการ (Service Psychology)” ได้รับการประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาบุคลากรและทรัพยากรในภาคธุรกิจบริการ อุตสาหกรรมภาคการบริการมาช้านาน การทำงานที่ต้องมีการติดต่อ สื่อสารส่งผ่านบุคคล
เทคนิคการพูดเพิ่มภาวะผู้นำ
คำพูดเป็นปราการด่านแรกแห่งความสำเร็จในอาชีพ เป็นการแสดงออกด้วยวจนภาษาดึงดูดผู้คนเข้ามาสนใจหรือผลักออกไปจากจากวงโคจรชีวิต โดยเฉพาะงานที่ให้บริการทั้งทางแบบออนไลน์ ออฟไลน์ ล้วนแล้วแต่ต้องใช้ทักษะการพูด
แนวทางสร้าง Training Needs ก่อนทำ TRM
แบบสอบถาม Training Needs เพื่อสอบถามพนักงานในองค์กร ผลของคำตอบในแบบสอบถามนั้น นำมาเพื่อใช้ประเมินหาหลักสูตรที่จำเป็น (Training Needs) ในการอบรมต่อตำแหน่งงานไม่ใช่หลักสูตรที่ต้องการฝึกอบรม