ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์ วันที่ : 11 กรกฎาคม 2566 จำนวนผู้เข้าชม 1538 คน
11 กรกฎาคม 2566“การจัดทำขีดสมรรถนะความสามารถแบบ Competency มีประโยชน์ทั้งด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลและการพัฒนารูปแบบองค์กรให้มีประสิทธิภาพเท่าทันสถานการณ์”
การมุ่งหมายบริหารบุคลากรไปที่การประเมินผลปฏิบัติงานของแต่ละบุคคลไม่เพียงพอให้เห็นผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้น องค์กรจึงต้องมีการวางรูปแบบขีดสมรรถนะให้ตรงบริบทตนเอง เริ่มด้วยการจัดทำ ขีดสมรรถนะความสามารถทั้ง 4 ประเภท คือ
1. ขีดสมรรถนะหลักองค์กร (Core Competency)
: พฤติกรรมด้านความรู้ ทักษะและคุณลักษณะเฉพาะบุคคล ที่สะท้อนการสนับสนุนวิสัยทัศน์ ภารกิจและเป้าหมายองค์กร
2. ขีดสมรรถนะความสามารถด้านบริหารจัดการ (Managerial Competency)
: พฤติกรรมด้านความรู้ ทักษะและคุณลักษณะเฉพาะบุคคล ที่สะท้อนการบริหารจัดการตามระดับ ตำแหน่งหน้าที่ของตนเองในการจัดการตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. ขีดสมรรถนะความสามารถในหน้าที่งาน (Functional Competency) หรือเรียก Technical Competency
: พฤติกรรมด้านความรู้ ทักษะและคุณลักษณะเฉพาะบุคคล ตามลักษณะหน้าที่ตำแหน่งงานที่รับผิดชอบหรือตามใบกำหนดหน้าที่งาน (Job Description : JD)
4. ขีดสมรรถนะความสามารถส่วนบุคคล (Personal Competency)
: พฤติกรรมด้านความรู้ ทักษะ อุปนิสัย บุคลิกภาพ และคุณลักษณะเฉพาะบุคคลที่มีลักษณะพิเศษตามแต่ละบุคคลแตกต่างโดดเด่นเหนือบุคคลอื่นทั่วไป
การทำขีดสมรรถนะความสามารถ(Competency)นั้น ไม่ควรจัดทำประเมินผลชี้วัดบุคคลแค่แบบขีดสมรรถนะด้านเดียว โดยขาดการประเมินผลแบบตัวชี้วัดหลักการทำงาน (Key Performance Indicators) แต่เป็นส่วนเติมเต็มการพัฒนาบุคลากรและพัฒนาองค์กรที่ มีประโยชน์มากมาย ดังนี้
1. ช่วยสนับสนุนวิสัยทัศน์ ภารกิจและเป้าหมายองค์กรให้ขับเคลื่อนได้สำเร็จ
2. ช่วยวางรากฐาน เกิดการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นไปตามทิศทางเดียวกันอย่างยั่งยืน
3. ช่วยเป็นเครื่องมือ (Tools) สำคัญในการบริหารพัฒนาบุคลากรทั้งความรู้ ทักษะและลักษณะส่วนบุคคล เช่น
การจัดทำ Competency จึงมีส่วนสำคัญช่วยเติมเต็มการพัฒนาองค์กรทั้งในแง่ของการพัฒนา การปรับปรุง การประเมินผลและติดตามดูแล
ดังนั้น การใช้เครื่องมือพัฒนาองค์กรต้องมีความหลากหลาย ไม่ใช้หลักการวัดผลเพียงแค่ KPIs หรือ OKRs เฉพาะด้านเดียวควรทำการจัดทำ Competency ร่วมด้วย ให้ตรงกับลักษณะบริบทองค์กรที่เป็นอยู่ ที่สำคัญมองให้ลึกจะเห็น Competency เป็นรากแก้วเล็กๆในการขับเคลื่อนสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้ยั่งยืน
E-Mail : [email protected]
วันที่ : 11 กรกฎาคม 2566
จำนวนผู้เข้าชม 1538 คน
กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line
หลักสูตรการสื่อสาร AIDET Plus communications สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
ยุค MK6.0 การจัดอบรมสำหรับบุคลากรสายงานสุขภาพทุกตำแหน่งในงานด้าน Healthcare เปลี่ยนไปในรูปแบบเน้นการสื่อสาร(Communication)กับผู้รับบริการให้มากขึ้น มีการเชื่อมโยงทั้งด้านการสัมผัสด้วยตาและรับรู้ด้วยใจ
กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD
ธุรกิจหรือกิจการ SME ขนาดเล็กไม่มีการจัดทำใบกำหนดหน้าที่งาน อาจไม่สะดวกใช้การ ประเมินผลแบบ BSC เทคนิคง่ายๆ ในการกำหนดตัวชี้วัดผล สำหรับผู้จัดทำ KPI มือใหม่ กำหนด ตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD ทำอย่างไร ?
อบรม ESB & AIDET Plus แก้ปัญหาการบริการและการสื่อสาร ?
อบรมพฤติกรรมบริการ (ESB) ไปแล้ว การเรียนรู้หลักสูตรเรื่อง AIDET Communications จำเป็นหรือไม่ ? AIDET เนื้อหาการเรียนรู้เรื่องอะไร ? นี่คือคำถามที่ผู้จัดอบรมในคลินิก และโรงพยาบาลหลายแห่ง
การสื่อสารแบบ AIDET Plus ทุกแผนกในโรงพยาบาลทำอย่างไร ?
ในอดีตผู้ปฏิบัติงานมีหน้าที่ปฏิบัติงานตามหลักใบกำหนดหน้าที่งาน (Job Descriptions) โดยปฏิบัติงานแต่ละหน้าที่ตามขั้นตอนงาน (Work Instruction) ที่จัดทำขึ้นมาจากมาตรฐานของแต่ละวิชาชีพตามหลักการความปลอดภัย
ตัวอย่างตัวชี้วัด KPI ตามตำแหน่ง & ปัญหาระยะ Action Plan
ระบบประเมินผล KPI ช่วยทำให้องค์กรคัดเลือกคนเก่งโดยอัตโนมัติ คุมงบประมาณให้อยู่ในกรอบและเพิ่มกลยุทธ์ในการแข่งขัน หากวางระบบการดำเนินการ(Action Plan)ที่ดี ผู้บริหารสูงสุดเห็นความสำคัญ
แนวทางสร้าง Training Needs ก่อนทำ TRM
แบบสอบถาม Training Needs เพื่อสอบถามพนักงานในองค์กร ผลของคำตอบในแบบสอบถามนั้น นำมาเพื่อใช้ประเมินหาหลักสูตรที่จำเป็น (Training Needs) ในการอบรมต่อตำแหน่งงานไม่ใช่หลักสูตรที่ต้องการฝึกอบรม