ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์ วันที่ : 28 กันยายน 2566 จำนวนผู้เข้าชม 2816 คน
28 กันยายน 2566“ใบกำหนดหน้าที่งานหรือใบพรรณนางาน เป็นต้นทางของการประเมินผลปฏิบัติงาน การประเมินที่สมบูรณ์แบบเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้กำหนดหน้าที่แต่ละบุคคลให้ชัดเจน”
ลำดับการจัดทำ Job Description(JD) มีดังนี้
1. กำหนดโครงสร้างการทำงานในองค์กร(Organization Chart)ให้ครบทุกภารกิจงาน
ไม่ควรแยกรายละเอียดย่อยหลายแผนก รวมงานที่มีหน้าที่สัมพันธ์และบริหารไปทิศทางเดียวกัน อยู่ในหมวดหมู่ฝ่ายเดียวกัน โดยลำดับจากตำแหน่งสูงลงสู่ระดับล่างสุด ตัวอย่างการจัดฝ่ายงาน เช่น Finance and Accounting ,Human Resource and Administration,Marketing and Customer Relationship Management
หลังกำหนดแล้วมีการตรวจสอบและลงนามกำกับจากผู้บริหารสูงสุด
2. จัดทำใบรายละเอียดของฝ่ายงาน/หน่วยงาน(Functional Description : FD) อาจแสดงลำดับกำหนดเป็นกลุ่ม แสดงรายละเอียดขอบเขตความรับผิดชอบหลัก (Key Responsibilities Functional Description )เป็นข้อๆของฝ่ายงานนั้น เพื่อให้ง่ายต่อการแยกลงรายละเอียดเขียน JD ในขั้นถัดไป
3. กำหนดแบบฟอร์มการเขียนใบกำหนดหน้าที่งาน โดยกำหนดหัวข้อที่ลงรายละเอียดในแบบฟอร์มแต่ละหัวข้อ ต้องการลงรายละเอียดเรื่องใดบ้าง ตัวอย่างเช่น
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความเรื่อง **เขียนคำบรรยาย JD ที่ดี**)
4. ออกแบบกำหนดรายละเอียดลงใบตารางกำหนดหน้าที่งาน(JR Matrix) เพื่อจัดกลุ่มระดับการจัดการ ระดับหัวหน้า ระดับปฏิบัติการ และหน้าที่หลักในฝ่ายงาน หน่วยงาน ทำการลงรายละเอียดแยกแต่ละฝ่าย แนวทางสร้างตารางจัดกลุ่ม JR Matrix ตารางแนวตั้งมุมซ้ายเป็นหน้าที่รับผิดชอบหลัก(ลำดับจากนโยบาย การจัดการและกิจกรรมอื่นๆ) ตารางมุมขวาแนวนอนระบุตำแหน่ง (ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ผู้จัดการ หัวหน้างาน… )
5. นำข้อมูลจริงในการทำงานแต่ละตำแหน่งระบุรายละเอียดลงในแต่ละหน้าที่งาน ลำดับความสำคัญงานที่สำคัญมาก เร่งด่วนตรงตามหน้าที่ลงเป็นข้อแรก กิจกรรมที่สำคัญ ไม่เร่งด่วนไม่ประจำและสนับสนุนงานเป็นลำดับถัดมา พร้อมระบุตัวชี้วัดผลงาน(Performance Indicator)ลงตารางมุมขวาแต่ละข้อในหน้าที่งานหลัก
6. ทำการวิเคราะห์หน้าที่งาน(Job Analysis : JA) ตามหน้าที่ความรับผิดชอบหลักโดยใช้หลักการวิเคราะห์ทั้งเรื่อง Productivities(Input Output Income Outcome) Process Timing เป็นต้น ขึ้นอยู่กับ JD นั้นดำรงตำแหน่งรับผิดชอบด้านใด งานการจัดการภายนอก(Operation) หรืองานธุรการทั่วไป
7. มีการทบทวนปรับปรุงแก้ไข(Revise) ใบกำหนดหน้าที่งานทุกครั้ง ที่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะรายละเอียดความรับผิดชอบหน้าที่งาน ซึ่งในใบกำหนดหน้าที่งานไม่ระบุชื่อบุคคล(Name)ผู้ลงตำแหน่ง เนื่องจากวัตถุประสงค์การจัดทำใบกำหนดหน้าที่งานทำเพื่อระบุลักษณะเฉพาะให้ทราบหน้าที่ในตำแหน่งงานนั้น ไม่ใช่ระบุจากลักษณะบุคคลนั้น สามารถระบุตำแหน่ง(Position) และระดับ(Level) ลงไปในใบกำหนดหน้าที่ได้เพื่อให้ทราบขั้นระดับที่ทำงาน
8. นำรายละเอียดใบกำหนดหน้าที่งานมาใช้ในการดำเนินงานของฝ่ายบุคคลเช่นการคัดเลือกสรรหา การเลื่อนขั้นตำแหน่งงาน และกำหนดตัวชี้วัดแผนก ตัวชี้วัดรายบุคคล(Individual KPI)
ดังจะเห็นว่า หากในใบกำหนดหน้าที่งานระบุข้อมูลที่ถูกต้อง มีรายละเอียดครบถ้วนทั้งหน้าที่หลัก หน้าที่รอง กิจกรรมหลัก กิจกรรมรอง ตำแหน่ง ระดับงาน ตัวชี้วัดผลงาน(PIs)แต่ละหน้าที่งานทำการคัดเลือกจัดทำตัวชี้วัดผลงานหลัก(KPI) ได้ง่ายขึ้น รวมถึงเห็นรายละเอียดข้อมูลที่ไม่ใช่หน้าที่งานโดยตรง อาจเป็นไปได้ว่างานในบางตำแหน่งหน้าที่มีความเกี่ยวข้องกับการประสานงานแผนกอื่น สามารถระบุลงใบข้อมูลจัดทำใบกำหนดหน้าที่งานได้ ในส่วนของการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น(Working Relationship)
สำหรับบุคคลที่มีส่วนร่วมจัดทำใบกำหนดหน้าที่งานนั้นประกอบด้วย ผู้บริหารทุกระดับ หัวหน้างาน พนักงานผู้ปฏิบัติงาน ฝ่ายบุคคลจัดเก็บรวบรวมข้อมูลปรับปรุงแก้ไข
ในระยะเริ่มแรกหากไม่มีความชำนาญในการจัดทำสามารถเชิญที่ปรึกษา(Consult) ภายนอกเข้ามาบรรยายและเป็นโค้ชสอนทีมงานจัดทำ JD หรือบางองค์กรอาจใช้วิธีการจ้างที่ปรึกษาจัดทำ JD ทั้งหมดทุกตำแหน่งงาน แม้ที่ปรึกษาจัดทำเองทั้งหมดแต่ยังคงต้องใช้การมีส่วนร่วมจากบุคคลทุกระดับในองค์กร ในการให้ความคิดเห็น การสัมภาษณ์ วิเคราะห์ ตรวจสอบ ขอบเขตงานที่ตั้งไว้และขอบเขตงานที่ทำจริง เพื่อให้ใบกำหนดหน้าที่งานสามารถใช้ได้จริงเป็นรูปธรรม
E-Mail : [email protected]
วันที่ : 28 กันยายน 2566
จำนวนผู้เข้าชม 2816 คน
กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line
กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD
ธุรกิจหรือกิจการ SME ขนาดเล็กไม่มีการจัดทำใบกำหนดหน้าที่งาน อาจไม่สะดวกใช้การ ประเมินผลแบบ BSC เทคนิคง่ายๆ ในการกำหนดตัวชี้วัดผล สำหรับผู้จัดทำ KPI มือใหม่ กำหนด ตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD ทำอย่างไร ?
Feedback 5 ขั้นตอนเพื่อพัฒนาตัวชี้วัด KPI
คุณสมบัติหัวหน้างานที่ดีไม่เพียงแต่จะบริหารทีมงานได้เท่านั้น การให้ฟีดแบ็ก (Feedback) ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทีมงาน สร้างคนเก่งในองค์กร (Talent people) ลดอัตราการลาออก (Turnover rate)
อบรม ESB & AIDET Plus แก้ปัญหาการบริการและการสื่อสาร ?
อบรมพฤติกรรมบริการ (ESB) ไปแล้ว การเรียนรู้หลักสูตรเรื่อง AIDET Communications จำเป็นหรือไม่ ? AIDET เนื้อหาการเรียนรู้เรื่องอะไร ? นี่คือคำถามที่ผู้จัดอบรมในคลินิก และโรงพยาบาลหลายแห่ง
ตัวอย่างตัวชี้วัด KPI ตามตำแหน่ง & ปัญหาระยะ Action Plan
ระบบประเมินผล KPI ช่วยทำให้องค์กรคัดเลือกคนเก่งโดยอัตโนมัติ คุมงบประมาณให้อยู่ในกรอบและเพิ่มกลยุทธ์ในการแข่งขัน หากวางระบบการดำเนินการ(Action Plan)ที่ดี ผู้บริหารสูงสุดเห็นความสำคัญ
Human Touch In Healthcare ด้วย Touching & Feeling
Human Touch ถูกพูดถึงในการดูแลรักษาสุขภาพ มุมมองการมีจิตบริการมานาน ควบคู่กับคำว่า Empathy (การเอาใจใส่) ซึ่งหากพูดถึงแง่การลงมือปฏิบัติงาน Human Touch มีแนวทางนำไปใช้ได้อย่างไร ?
ประโยชน์การสื่อสารแบบ AIDET
ในช่วงที่ผู้เขียนได้ฝึกงานและทำวิจัยหัวข้อเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในโรงพยาบาลต่างประเทศ ได้สังเกต รวมถึงศึกษาวัฒนธรรมการดูแลผู้รับบริการของบุคลากรทางการแพทย์หลายกลุ่ม ทั้งการปฏิสัมพันธ์ของผู้ปฏิบัติงาน