ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์ วันที่ : 29 สิงหาคม 2566 จำนวนผู้เข้าชม 4124 คน
29 สิงหาคม 2566“เลือกคนให้ตรงงานถูกที่ถูกเวลา คือแนวทางการสรรหาบุคลากรทุกตำแหน่งหน้าที่ หากได้บุคคลที่มีคุณภาพตรงหน้าที่งานช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มความสำเร็จงาน ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง”
ส่วนใหญ่ในประเทศไทย ไม่ว่าเป็นระบบการเข้ารับราชการ สมัครงานภาครัฐ เอกชน นิยมใช้เกณฑ์คัดเลือก ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ฝ่ายบริหาร เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการมี 2 แบบ คือ
1. คัดเลือกจากระบบอุปถัมภ์ (Patronage)
: เป็นการสรรหาที่ก่อให้เกิดการเสียหายต่อกระบวนการทำงาน ขาดโอกาสในการรับบุคคลที่มีความสามารถตรงในตำแหน่ง เสมือนการผูกขาดการคัดเลือก โดยผู้มีอำนาจต่อรองคัดเลือกจากบุคคลที่สนิทสนม รู้จักเป็นการส่วนตัว มีความสนิทแนบชิด เครือญาติ
2. คัดเลือกจากความมีคุณธรรม (Merit)
: เป็นการคัดเลือกที่เกิดการทดสอบแข่งขัน การสัมภาษณ์เพื่อเปรียบเทียบ ทำให้ได้ผู้ดำรงตำแหน่งตามคุณสมบัติที่กำหนด โดยการคัดเลือกในแบบนี้จะได้คนทำงานที่ตรงใจองค์กร งานบรรลุเป้าประสงค์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการวางคุณสมบัติการคัดเลือกว่าต้องการคุณสมบัติทำงานแบบใด
ในการคัดเลือกแบบ Merit นี้ มีการวางคุณลักษณะเฉพาะทางไว้ 3 แบบคือ
2.1) เป็นผู้มีทักษะความสามารถ (Skills & Competence)
เช่น วุฒิการศึกษา ความเชี่ยวชาญ ทักษะความสามารถพิเศษ ประสบการณ์สายงานการบริหาร ประสบการณ์การทำงานจริง การเข้ารับการอบรมวุฒิบัตรที่เกี่ยวข้อง เหล่านี้เป็นข้อมูลสำคัญในการคัดเลือกลำดับแรกได้คนตรงงาน ดังนั้น ทุกตำแหน่งทุกระดับควรวางคุณสมบัติระบุไว้อย่างชัดเจนในใบกำหนดหน้าที่งาน(Job Description) ใบคุณลักษณะเฉพาะงาน เมื่อมีการสรรหาผู้สรรหานำข้อมูลในส่วนนี้ออกมาใช้ประโยชน์ ประกาศสรรหาได้จริง
2.2) สิทธิแห่งความเสมอภาค (Equality)
ไม่จำกัดสิทธิการคัดเลือกเฉพาะเพศใดเพศหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่มีเงื่อนไขด้านการศึกษา ประสบการณ์ต้องตรงตามเกณฑ์คุณสมบัติที่กำหนด
2.3) มีความเป็นกลาง (Neutrality)
วางตัวเป็นกลางในการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ส่อเสียด ยั่วยุ หรือแสดงความคิดเห็นรุนแรงทางสังคม การเมือง โดยเฉพาะในปัจจุบันการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ที่เป็นหลักฐานสำคัญแบบ “Digital Footprint” คำพูด การแสดงออกอันอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ตำแหน่งหน้าที่ในองค์กรทั้งปัจจุบัน อนาคตได้
ในองค์กรทั้งภาครัฐ หน่วยงานราชการ หรือเอกชนการสรรหาบุคลากรมาดำรงตำแหน่งมีวิธีการแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ วิธีการ ข้อกำหนดบทกฎหมายรองรับ
กระบวนการสรรหา (Recruitment) ให้ได้คนตรงกับงาน มีแนวทางดังนี้ 1. วางแผนการคัดเลือกตามโครงสร้างองค์กร (Organization Charts) 2. กำหนดคุณสมบัติทุกตำแหน่งลงใบกำหนดหน้าที่งาน (JD) 3. กำหนดความสามารถ คุณลักษณะเฉพาะงานจากการ Job Analysis (JA) 4. ระบุตำแหน่งที่ต้องการสรรหาหรือว่างลงจากหัวหน้างาน ผู้บังคับบัญชา 5. สรรหาผู้ดำรงตำแหน่งโดยการประกาศลงช่องทางต่างๆ หรือการสอบแข่งขัน |
ส่วน กระบวนการคัดเลือก (Selection) มีแนวทางดังนี้
|
“Put the Right Man on the Right Job at the Right Time” การสรรหาคัดเลือกคนให้ตรงกับงานถูกที่ถูกเวลาเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก เสมือนบันไดขั้นแรกนำพาองค์กรไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ เพราะทุกตำแหน่งคือทรัพยากรที่มีคุณค่า ส่งผลทั้งงบประมาณ การพัฒนา การเติบโตการคัดเลือกผิดองค์กรย่อมเสียโอกาส ประเทศเสียเวลา …
ประเทศไทยการคัดเลือกคนจากระบบอุปถัมภ์คงเป็นรากแก้วฝังลึกที่มีปัญหาอย่างต่อเนื่อง ต้องแก้ที่ต้นเหตุของความคิด นั่นคือต้องบูรณาการทางสังคมหลายภาคส่วน ปฏิวัติการศึกษาของไทยตั้งแต่ก่อนวัยเรียนถึงวัยรุ่นใหม่วาง Concept ให้เด็กเติบโตแบบขั้นบันไดความสำเร็จ มีสวัสดิการทางสังคมรองรับแบบเท่าเทียมไม่เลือกรวยจน สร้างหลักสูตรปลูกจิตสำนึกปรับMindsetเพาะบ่มให้เด็กทุกคนเติบโตด้วยคุณธรรมและเอาใจเขามาใส่ใจเรา (Empathy) พร้อมเป็นบุคลากรที่ดีในวันข้างหน้าเมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่
E-Mail : [email protected]
วันที่ : 29 สิงหาคม 2566
จำนวนผู้เข้าชม 4124 คน
กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line
กำหนดตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD
ธุรกิจหรือกิจการ SME ขนาดเล็กไม่มีการจัดทำใบกำหนดหน้าที่งาน อาจไม่สะดวกใช้การ ประเมินผลแบบ BSC เทคนิคง่ายๆ ในการกำหนดตัวชี้วัดผล สำหรับผู้จัดทำ KPI มือใหม่ กำหนด ตัวชี้วัด KPI แบบไม่มี JD ทำอย่างไร ?
อบรม ESB & AIDET Plus แก้ปัญหาการบริการและการสื่อสาร ?
อบรมพฤติกรรมบริการ (ESB) ไปแล้ว การเรียนรู้หลักสูตรเรื่อง AIDET Communications จำเป็นหรือไม่ ? AIDET เนื้อหาการเรียนรู้เรื่องอะไร ? นี่คือคำถามที่ผู้จัดอบรมในคลินิก และโรงพยาบาลหลายแห่ง
ตัวอย่างตัวชี้วัด KPI ตามตำแหน่ง & ปัญหาระยะ Action Plan
ระบบประเมินผล KPI ช่วยทำให้องค์กรคัดเลือกคนเก่งโดยอัตโนมัติ คุมงบประมาณให้อยู่ในกรอบและเพิ่มกลยุทธ์ในการแข่งขัน หากวางระบบการดำเนินการ(Action Plan)ที่ดี ผู้บริหารสูงสุดเห็นความสำคัญ
Human Touch In Healthcare ด้วย Touching & Feeling
Human Touch ถูกพูดถึงในการดูแลรักษาสุขภาพ มุมมองการมีจิตบริการมานาน ควบคู่กับคำว่า Empathy (การเอาใจใส่) ซึ่งหากพูดถึงแง่การลงมือปฏิบัติงาน Human Touch มีแนวทางนำไปใช้ได้อย่างไร ?
ความสำคัญ JD ต่องานประเมินผล
อย่าเก็บใบกำหนดหน้าที่งานหรือใบพรรณนางานของพนักงานไว้ในแฟ้มหรือไฟล์แบบไร้การเหลียวแล ต้องหมั่นอัพเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน นำ JD มาใช้ประโยชน์มากกว่าการเก็บไว้เป็นอนุสรณ์เตือนใจสำหรับงานบุคคล
การบริการเชิงรุก (Proactive Service ) ทำอย่างไร?
การบริการเชิงรุกไม่ใช่การกระตือรือร้นการบริการหรือเสนอการบริการให้ลูกค้าก่อน แต่เป็นรูปแบบการวางระบบบริการไว้ล่วงหน้าด้วยเทคนิค “สร้าง Brand loyalty & Brand Personal” ทุกขั้นตอนตั้งแต่แรกรับ