หน้าแรก หน้ารวมบทความ ไร่ตอลส์ตอย

ไร่ตอลส์ตอย


ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์   วันที่ :   จำนวนผู้เข้าชม 237 คน

กด Like กด Share บทความให้เพื่อน

Facebook Twitter Line

     เรื่องราวความขยัน อดทน ตอนหนึ่งในหนังสือชีวประวัติ มหาตมา คานธี แปลจากภาษาฮินดีโดย กรุณา กุศลาสัย,2512 โดยในปีที่แปลหนังสือนั้นครบรอบร้อยปีศตวรรษของท่านมหาตมา คานธี 

      แม้เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ปัจจุบันเรื่องราวที่กล่าวไว้ในหนังสือยังเป็นข้อคิด สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี สมดั่งเป็น “บิดาแห่งประชาชาติอินเดีย” มหาบุรุษถือเอาอหิงสาความไม่เบียดเบียนกัน มีไมตรีอารีจิตต่อกัน โลกใบนี้ศานติถาวร

     สรุปความตอนที่ 37 กล่าวว่า …

     “ไร่ตอลส์ตอย”

     “… นาย Kallenbach ได้ยกที่ดินแปลงหนึ่งมีเนื้อที่ 1,100 เอเคอร์ (ประมาณ 2,750 ไร่) ให้โดยมิคิดมูลค่า เนื้อที่มีต้นไม้ประมาณ 1,000 ต้น ทางทิศเหนือมีเนินดินเตี้ยๆ ซึ่งมีบ้านหลังย่อมๆปลูก มีลำธารเล็กๆ อยู่หลังหนึ่ง นอกจากบ่อน้ำสองบ่อซึ่งมีน้ำสะอาดไหลรินตลอดเวลา สถานีรถไฟ Laly อยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 1 ไมล์ (1 ไมล์เท่ากับ 1.61 กิโลเมตร) ส่วนเมือง Johannesburg อยู่ห่างออกไป 21 ไมล์ (33.8 กิโลเมตร) พวกเราได้ตัดสินใจใช้ที่ดินนี้ทำมาหากิน 

     ที่ดินแปลงนี้ ยังอุดมไปด้วยต้นส้มและต้นพุทราอีกด้วย ในฤดูออกผลแล้วมีผลดกจนรับประทานไม่ไหว ตัวอาคารที่อยู่ของพวกเราห่างจากลำธารประมาณ 500 หลา เราได้มีระเบียบกันไว้ว่าเราจะไม่ใช้ลูกจ้างหรือคนใช้ ตั้งแต่ทำงานทำความสะอาดส้วม ไปจนถึงการหุงหาอาหารรับประทาน ทุกครอบครัวลงมือทำกันเอง 

     บรรดาชาวอินเดียที่สมัครเข้ามาอยู่ในไร่ มีชาวคุชราต ชาวมัทราส ชาวอานฺธรและชาวอินเดียจากภาคเหนือ ทั้งหมดนับถือศาสนาต่างกัน ได้แก่ศาสนาฮินดู อิสลาม ปาร์ซี และศาสนาคริสต์

     ในจำนวนนี้เป็นชายหนุ่ม 40 คน คนแก่ 2-3 คน ผู้หญิง 5 คน เด็กประมาณ 25-30 คน มีเด็กสาวรวอยู่ 4-5 คน เดิมแต่ละคนไม่ใช่คนแข็งแรง ต่อมากลายเป็นคนแข็งแรงและทำงานเป็นกันหมด

     เมื่อต้องไปทำกิจธุระในเมือง Johannesburg แม้แต่ข้าพเจ้าเองก็ต้องไปทำธุระ จึงตกลงกันว่าผู้ที่ไปทำธุระให้ส่วนรวมเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ได้นั่งรถไฟ หากไปทำธุระอื่นๆส่วนตัวให้เดินไป ให้ทุกคนติดอาหารไปด้วยระหว่างทาง จะไปซื้อรับประทานในเมืองไม่ได้ นี้เป็นระเบียบที่เข้มงวดเหลือเกิน ความจริงที่เป็นเช่นนี้เพราะหากไม่ปฏิบัติตนอย่างเข้มงวด ก็ไม่มีโอกาสจะเก็บเงินทองได้เลย  อาหารที่เรานำติดตัวไปรับประทานก็ง่ายๆได้แก่โรตีที่ทำด้วยแป้งที่ตำด้วยมือและไม่ได้ร่อนเอากากออก น้ำมันที่ใช้ปรุงอาหารเป็นน้ำมันจากถั่วลิสง แยมที่รับประทานทำด้วยเปลือกส้ม เราได้ซื้อเครื่องบดแป้งที่ใช้แรงคนไว้ทำงานเครื่องหนึ่ง น้ำมันถั่วลิสงทำกันเองโดยคั่วถั่วลิสงแล้วคั้นน้ำมันออก ซึ่งราคาถูกกว่าน้ำมันเนยถึงหนึ่งในสี่ ส่วนส้มนั้นมีต้นส้มอยู่แล้วในไร่ของเรา น้ำนมวัวก็เช่นเดียวกัน นานๆเราจะซื้อสักที เพราะส่วนมากจะใช้นมกระป๋องกัน 

     ผู้ที่ประสงค์จะไปเที่ยวในเมือง Johannesburg ในสัปดาห์หนึ่งไปได้หนึ่งหรือสองครั้ง ต้องกลับในวันนั้น เพราะเมืองอยู่ไกลข้อบังคับให้คนเดินเท้าช่วยให้ประหยัดเงินได้หลายร้อยรูปี ผู้เดินเองได้ประโยชน์ด้านพลานามัย หลายคนกลายเป็นคนนิสัยชอบเดินเป็นประจำต้องตื่น 02.30 น. ส่วนผู้ที่เดินได้เร็วนั้นต้องใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่าๆ จึงจะถึงเมือง Johannesburg ”

     นี่คือเรื่องราวเล็กๆในไร่ตอลส์ตอยที่ฝึกให้ประหยัด อดทน เรียนรู้พื้นฐานการดำรงชีพอย่างแท้จริง ทำให้ได้เห็นภาพการใช้ชีวิตเมื่อ 100กว่า ปีก่อน ผู้คนใช้ชีวิตบนโลกของความเป็นจริงแบบปัจจัย 4 อาหาร เครื่องนุ่งห่ม  ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค 

     ไม่มีสื่อดิจิทัล ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ไม่มีห้างสรรพสินค้าให้เดินเที่ยวชมแต่ทุกคนประกอบสัมมาอาชีพด้วยความตระหนักตั้งใจ รักครอบครัวมีกติกาอยู่ร่วมกันในสังคมและก้าวทีละก้าวเพื่อจุดหมายเป็นระยะทางกว่า 33.8 กิโลเมตร ทำเวลา 4 ชั่วโมงกว่า ไป-กลับวันละ เกือบ 9 ชั่วโมงเพื่อเข้าเมืองทำธุระ ถ้าเป็นผู้เขียนคงเดินไม่ไหว เดินไปพักไปเป็นวันๆแน่นอน …

     กลับมาที่โลกปัจจุบัน… 

     เห็นสงครามการค้าระหว่างประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาในช่วงปีที่ผ่านมาแล้วดุเดือดเลือดพล่านไม่น้อย ประเทศไทยเราได้รับแรงสั่นสะเทือนจากมาตรการป้องกันการค้ากดดันการส่งออกจากสหรัฐอเมริกาเช่นกัน

     ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกตัวยิ่งใหญ่แรงทุกขณะไม่มีลดราวาศอกกับหลายประเทศที่รัฐบาลอเมริกาในยุคที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ปลื้มอยากเป็นมิตรสักเท่าไรนัก!!

     ทรัมป์ เองมักพูดเสมอว่าอเมริกาต้องยิ่งใหญ่และเศรษฐกิจดีกว่าใคร แม้ขนาดสโลแกนที่เขาใช้หาเสียงล่าสุดคือ “Make America Great Again !!” อเมริกาต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง !! ไม่แปลกเลยที่หลายกลุ่มยังสนับสนุนเขาเพราะความใจกล้า ปากกล้าและกล้าท้าชน ไม่กลัวหน้าสิ่วหน้าขวานฝ่ายไหนด้วยสไตล์การบริหารประเทศแบบนักธุรกิจ

     หลังวันเลือกตั้งสหรัฐฯ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นมาเราทั่วโลกเห็นภาพชาวอเมริกันแบ่งขั้วเป็นสองฝ่ายการเมืองระหว่างรีพับลิกัน (Republican) และเดโมเครต (Democratic) ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งวันที่ 20 มกราคม 2564 ของประธานธิบดีคนที่ 46 คือ โจ ไบเดน ณ กรุงวอชิงตัน ได้กล่าวปิดท้ายสุนทรพจน์ช่วงหนึ่งด้วยคำมั่นสัญญาว่า

 “ผมจะปกป้องรัฐธรรมนูญ ปกป้องประชาธิปไตยของเรา ปกป้องอเมริกาและจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อรับใช้ทุกคนไม่คิดถึงอำนาจแต่คิดถึงความเป็นไปได้ ไม่ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวแต่ทำเพื่อประโยชน์ของสังคม เราจะเขียนประวัติศาสตร์ของอเมริกัน ไม่ใช่ความหวาดกลัว เขียนเรื่องความสามัคคีไม่ใช่ความแตกแยก เรื่องแสงสว่างไม่ใช่ความมืด เขียนเรื่องราวความเหมาะสมและศักดิ์ศรี ความรักและการเยียวยา ความยิ่งใหญ่และความดีงาม” …

     เราทุกคนก็ได้แต่หวังว่าเมื่ออเมริกามีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจใหม่ ประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกอย่างอเมริกาจะจัดการพลิกวิกฤติทั้งการค้า การลงทุน การขาดความปรองดองของคนในชาติและกอบกู้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดได้ดีขึ้น อย่าได้ขึ้นแท่นครองตำแหน่งติดชื้ออันดับหนึ่งของโลกยาวนานข้ามปีอีกเลย  คนอเมริกันมิใช่น้อยที่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากไม่ต่างกับคนทั่วโลก…

     ขณะนี้โลกกำลังเผชิญวิกฤติการแพร่ระบาดไวรัส Covid19 ประเทศไทยเองก็ต้องตกอยู่ในสภาพบ้านเมืองลุ่มๆดอนๆ ร้อนบ้างเย็นบ้าง  ประชาชนบางส่วนยังแบ่งฝ่ายการเมือง ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นกลับเพิ่มสูงขึ้น จากข้อมูลองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ(Transparency International ) ปี 2562 ไทยได้คะแนน 36 จากคะแนนเต็ม 100 จัดอันดับตกอยู่อันดับ 101 ของโลก 

     แม้การบริหารงานรัฐบาลภายใต้อำนาจผู้นำรัฐบาลมาจากทหารแต่ดัชนีภาพลักษณ์การทุจริตของไทยกลับแย่ลงไปอีก จากปีก่อนหน้านี้ซึ่งเดิมคะแนน 43

     พบปัญหาการคอร์รัปชันหลายระดับในบุคลากรภาครัฐยังมีให้เห็นทั้งติดสินบนเล็กน้อยรวมไปถึงการคอร์รัปชั่นโครงการระดับบน จังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน แล้วเมื่อไรประชาชนระดับรากหญ้าจะได้รับงบประมาณพัฒนาได้อย่างแท้จริง  คนไทยจะดำรงชีพอย่างปกติสุข นั่งยิ้มแก้มปริได้เสียทีเล่า ? 

     โรคระบาด การเมือง  การค้า ทุจริตสะสม เหล่านี้เป็นตัวแปรสำคัญให้สภาพเศรษฐกิจเราไม่ขยับเพิ่ม..

     น่าคิดเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นที่แก้ไม่ได้ไม่ว่ารัฐบาลยุคสมัยไหน หรือควรกลับไปทบทวนแก้ไขวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาการคอร์รัปชั่น ตามหลักการ Fish Bone Diagram ดีไหม ?

     หาสาเหตุให้ได้ว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดจาก …

  • คน
  • กระบวนการ
  • ระบบบริหาร 
  • วิธีการ 
  • จริยธรรม 
  • หรือแก้ที่ต้นตอระบบการศึกษา ดี  ???? 

     การรณรงค์ต่อต้านทุจริตคงไม่เพียงพอ ตราบใดที่คนทำยังไม่มีสามัญสำนึกและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม  !!! 

    สุดท้ายประชาชนตาดำๆ ไม่อาจฝากความหวังไว้กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือ

    ไม่อาจรู้ได้ว่าอนาคตโลกเราจะเกิดโรคระบาดอะไรอีก เศรษฐกิจจะก้าวหน้าหรือถอยหลัง แต่หากปฏิบัติตามแนวคิดการใช้ชีวิตเฉกเช่นเดียวเรื่องราวความขยัน ประหยัด อดทนแห่งไร่ตอลส์ตอย อะไรจะเกิดเราก็พร้อมฮึดสู้ แล้วล่ะ !!!

วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์


E-Mail : [email protected]

วันที่ : 08 มีนาคม 2566

จำนวนผู้เข้าชม 237 คน

กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line

บทความที่เกี่ยวข้อง


ฝึกพูดหาเสียงสามเรื่อง“กระบี่สัตเดช”

สิ่งสำคัญมากกว่าการพูดให้เป็นคือการใช้ระดับน้ำเสียงให้ถูก เพราะไม่ว่าเราพูดประโยคสวยหรูดีงามแค่ไหน แต่เสียงไม่ส่งพลังไม่คล้องจองไปกับประโยคที่สื่อสารแบบ Inner to outer สิ่งที่สื่อความหมายก็ผิดเพี้ยน

ไร่ตอลส์ตอย

แม้เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ปัจจุบันเรื่องราวที่กล่าวไว้ในหนังสือยังเป็นข้อคิด สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี สมดั่งเป็น “บิดาแห่งประชาชาติอินเดีย” มหาบุรุษถือเอาอหิงสาความไม่เบียดเบียนกัน มีไมตรี

ทำอย่างไรให้ธุรกิจอยู่รอดด้วยไคเซ็น

ในช่วงวิกฤติโควิด19 (Covid19) ปี 2563 หลายธุรกิจทั้งภาคการศึกษา ธุรกิจบริการ โรงแรม ร้านอาหาร หลังการระบาดต่างปิดตัวลงจำนวนมาก ถือเป็นการ Disruption ครั้งใหญ่ที่ไม่ได้เกิดจากความก้าวหน้าหรือเทคโนโลยี

วิธีเรียนรู้แบบโต๊ะโตะจัง

การเรียนรู้ในวัยทำงานต่างจากการเรียนการสอนในวัยเรียน เพราะวัยผู้ใหญ่ได้รับการเรียนรู้มาระยะหนึ่งแล้ว วัยผู้ใหญ่ต้องการอบรมเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อใช้ในการทำงานเป็นหลัก เช่น กลยุทธ์ (Strategic)

เทคนิคเขียน JD เพื่อใช้ในระบบประเมินผล

การเขียนใบกำหนดหน้าที่งาน (Job Description : JD) ที่ดี มีคุณภาพ ควรคำนึงถึงการนำ JD ไปใช้เพื่อการพัฒนาด้านอื่นๆของหน่วยงาน เช่น นำไปกำหนดหน้าที่แต่ละตำแหน่ง,นำไปใช้สรรหาว่าจ้างบุคลากรที่มีความเหมาะสม

20 วิธีสร้างความประทับใจในการต้อนรับลูกค้า

“กฎแห่งการบริการข้อ1 คือ ลูกค้าเป็นผู้ถูกเสมอข้อ 2 หากพบว่าลูกค้าทำอะไรผิด ให้กลับไปดูข้อ 1” ดังนั้นในการทำงานทุกหน้าที่ต้องมีบริการเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เว้น แม้แต่พ่อค้า แม่ค้า ครู อาจารย์ พนักงาน