ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์ วันที่ : 08 มีนาคม 2566 จำนวนผู้เข้าชม 813 คน
08 มีนาคม 2566สิ่งสำคัญมากกว่าการพูดให้เป็นคือการใช้ระดับน้ำเสียงให้ถูก เพราะไม่ว่าเราพูดประโยคสวยหรูดีงามแค่ไหน แต่เสียงไม่ส่งพลังไม่คล้องจองไปกับประโยคที่สื่อสารแบบ Inner to outer สิ่งที่สื่อความหมายก็ผิดเพี้ยนไม่จับใจไม่น่าฟัง ไม่บรรลุเป้าหมายที่มุ่งหวัง
เช่น….
: เสียงที่เปล่งออกไปต้องลดโทนเป็นเสียงศูนย์ต่ำสุด เบาแต่กึกก้องจับใจออกมาจากใจ
: เสียงที่ส่งออกเพื่อให้ฟังได้ชัดเจน เสียงควรมีระดับสูงต่ำมากกว่า 2 ระดับจากธรรมดา
จากเคยใช้เสียงพูดทั่วไป 1 ระดับต้องขึ้นไประดับ 3 ไม่ใช่การตะโกนแต่คือการเปล่งจากปอด เรียกง่ายๆคือส่งจากพลังภายใน ถ้าตะโกนพูดจะกลายเป็นใช้เสียงระดับผิด
นักพูดในที่สาธารณะมากมาย เริ่มต้นการเรียนรู้พื้นฐานเสียงตนเองก่อนอันดับแรก ต้องรู้ว่าตนเองมีเสียงพูดทั่วไปอยู่ในระดับใด เมื่อต้องพูดในท่ามกลางที่ประชุม พูดผ่านไมค์ พูดผ่านโทรศัพท์ พูดผ่านช่องทางออนไลน์Youtube Line อยู่ในระดับเสียงแบบไหน บางอาชีพที่ต้องใช้เสียงทำงานทุกวันเช่น พิธีกร วิทยากร นักร้อง นักข่าว ต้องออกกำลังกายรักษาสุขภาพตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ รักษาเสียงให้อยู่ระดับที่ทำงานได้ดี
วิธีฝึกการพูดให้ได้แบบมืออาชีพเมื่อรู้ระดับเสียงตนเอง ต่อมาเลือกประโยคตามสถานการณ์ที่สื่อสารแต่ละช่วง เรียนรู้ท่วงท่าที่เหมาะสมสง่างามถูกต้องเพื่อแสดงออก ในบางกรณี สิ่งที่ต้องเผชิญในการพูดอาจไม่ได้ความสำเร็จเสมอไป กรณีสถานการณ์ที่ต้องเจรจาต่อรอง ขอร้อง ขอความร่วมมือ เสียงต้องอ่อนน้อม ใส่พลังความมุ่งมั่นแบบอ่อนโยนลงไป ยอมความถ้อยทีถ้อยอาศัยเพื่อให้เป้าหมายที่ตั้งไว้บรรลุผล บางครั้งการเจรจาต่อรองไม่สำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เนื้อหาของเรื่องนั้นแต่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอยู่ที่ “การใช้น้ำเสียง” ของคู่เจรจาไม่สามารถจับใจผู้ฟัง สร้างแรงจูงใจให้คล้อยตามได้
การกล่าวสุนทรพจน์(Speech)ของประธานาธิบดีโอบามา(Barack Hussein Obama) ทั้ง2 เหตุการณ์คือChange Has Come to America ,Election night remarks, Chicago, lllinois , November 4 ,2008 และ A More Perfect Union, Philadelphia ,Pennsylvania ,March 18,2008.ถือเป็นการพูดที่ยอดเยี่ยมทั้งเนื้อหา น้ำเสียงที่ทรงพลัง
ยกตัวอย่างปีพ.ศ. 2555 ช่วงพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา เนื้อหามีนัยสำคัญหลักคือ “เตือนสติให้ประชาชนทุกคนในประเทศอเมริกาลุกขึ้นมาช่วยกันสร้างประเทศ ลืมอดีตความผิดพลาดรัฐบาลที่ผ่านมาและก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนั้นเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ ผู้คนพูดถึงทั่วโลก นำเนื้อหาการพูดของท่านไปทำการวิเคราะห์วิจัย นอกจากใช้คำพูดได้สละสลวยยังแฝงด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ผู้ฟังอินไปกับทุกประโยค ผู้ฟังมีส่วนร่วม(Engagement)ด้วยการเน้นโทนเสียง เว้นจังหวะหยุดพูด มีการเน้นย้ำเลือกคำ Key Wordที่สำคัญ ซ้ำๆบ่อยๆเช่นคำว่า เราทุกคน(All) ,บรรลุผล(Achieve) ,มีความหวัง(Hope) และสิ่งที่สื่อสารแสดงให้เห็นทัศนคติ(Attitude)ที่จริงใจของท่านผ่านประโยคบอกเล่าที่ทรงพลังยิ่ง
ในชั้นเรียนหลักสูตรการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เราได้พูดถึงหลักการพูดของหัวหน้างาน การพูดกับลูกค้า มีวิธีฝึกฝนตนเองอย่างไรให้น้ำเสียงทรงพลัง น่าฟัง น่าเกรงใจ อยากคุยต่อ มนุษย์ทุกคนเกิดมามีน้ำเสียงแตกต่างกัน ไม่ใช่ใครอยากพูดอะไรก็พูดได้ ยกเว้น เราพูดคนเดียวเสียงพูดแบบไหนย่อมได้ข้อนี้ไม่ว่ากัน
การเป็นหัวหน้างานนอกจากใช้หลักการบริหารด้วยพระเดชพระคุณ การพูดเช่นเดียวกัน ทำอย่างไร ให้คำพูดที่เราสื่อออกไปมีการสื่อสารแบบให้ลูกน้องเกรงใจ ไว้ใจ สร้างศรัทธา ในห้องเรียนจึงได้เล่าเรื่องตอนหนึ่งในสามก๊กเพื่อให้ทุกคนได้ Role Playing ฝึกใช้น้ำเสียงจริงพูดเสียงปกติและฝึกพูดผ่านไมค์ โดยหลักการ Inner To Outer ในเรื่องพูดถึงกระบี่สั้นสัตเดชกับตั๋งโต๊ะ ตอนหนึ่งว่า…
ขณะที่โจโฉยังเป็นทหารผู้น้อย เขามีความมุ่งมั่นทะเยอทะยานสูงมาก ได้กล่าวในท่ามกลางที่ประชุมว่า เขาได้เข้าไปรับใช้ฝากเนื้อฝากตัวให้ตั๋งโต๊ะใช้สอย คอยประจบประแจงแทบจะกราบเท้าวันละ 3 ครั้ง ไม่ได้ต้องการลาภยศอันใดเลย แค่ต้องการให้ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ เพื่อเป็นสะพานไปสู่การหมายเอาชีวิตตั๋งโต๊ะ แต่มีผู้คนใกล้เคียงระวังรักษาจำนวนมาก การฆ่าตั๋งโต๊ะจึงต้องแทงผับเดียวให้อยู่ ต้องมีอาวุธที่ดีจริงๆ ดังนั้นเขาจึงทราบว่าผู้เฒ่าอ้องอุ้นมีกระบี่สั้นชื่อ “สัตเดช” อันทรงคุณวิเศษ 7 ประการ อยู่หนึ่งเล่ม
ผู้เรียนคือโจเม่งเต้/โจโฉ
“ข้าพเจ้าจะขอยืมกระบี่สั้นเหน็บซ่อนเข้าไปให้ถึงตั๋งโต๊ะแล้วฆ่าเสีย จึงจะตัดเอาศีรษะมาให้ท่านจงได้ ”
อาจารย์คืออ้องอุ้น
…จะให้กระบี่สั้นหรือไม่ พิจารณาจาก
โจทย์คือ พูดเสมือนดุจคุณคือโจโฉผู้มีความมุ่งมั่นในมีดสั้นเล่มนี้นำไปสังหารตั๋งโต๊ะให้ได้…
ในห้องเรียนนั้นทุกคนมีความตื่นเต้นกับการจดจำประโยค การฝึกเสียงสูงต่ำเพื่อโน้มน้าวใช้ในการร้องขอกระบี่สั้น การใช้ท่าทางเพื่อสื่อสารเพื่อให้ผ่านการทดสอบในฐานเรียนรู้ครั้งนี้ บางท่านกว่าจะผ่านไปได้พูด 20 กว่าประโยคยังไม่ได้กระบี่สั้น …ส่วนมากติดเรื่องใช้เสียงโมโนโทน ตื่นเต้นมากไป หรือใช้เสียงสูงOverเกินจริง
ในชีวิตจริงเราเจอสถานการณ์ต่างๆ ที่หลากหลายทั้งการพบปะผู้คน การพูดในที่ชุมชน การซื้อขอ การเจรจาต่อรอง การขอโทษ การกล่าวขอบคุณ การซักถามความจริง ต้องหมั่นฝึกฝนให้การพูดทุกครั้งพูดแบบธรรมชาติถูกต้องตรงประเด็น ฝึกบันทึกเสียงฟังตนเองบ่อยๆ สำหรับคนที่พื้นฐานเสียงต่ำ เสียงเล็ก เสียงไม่มีพลัง เสียงไม่ตรงระดับที่สอนในชั้นเรียน
ดังนั้น ระดับเสียงเรานั้นมีความสำคัญมากทีเดียว ผู้เขียนจึงมักเน้นย้ำเสมอว่าในการเจรจาต่อรองหลายสถานการณ์ส่วนมากล้มเหลวไม่ใช่แค่หลักการ เนื้อหา แต่พังเพราะเสียงผิด หางเสียงล่ม ขาดความยืดหยุ่นเวลา
การพูดในเรื่องสำคัญต้องเตรียมเนื้อหา3ส่วน บทนำ เนื้อหา สรุปเรื่อง ในระหว่างบอกเล่าเนื้อหาจังหวะโคนเสียง ท่าทางที่ส่งออกขณะพูดควรวิเคราะห์ผู้ฟังไปด้วยทุกครั้งตลอดเวลา ไม่ใช่เราเป็นผู้พูดต้องใส่ทุกอย่างให้ครบตามประเด็นที่เตรียมมา ทุกสถานการณ์ในการเจรจาหลักสำคัญรองลงมาอีกอย่างหนึ่งคือความยืดหยุ่น ปรับเนื้อหา ลำดับงาน ไปตามสถานการณ์เพราะถ้ายืนยันแบบกระต่ายขาเดียวต้องเป็นไปตามStepลำดับแบบเป๊ะๆ อาจถูกมองว่าเราใช้ตนเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลไม่ฟังหน้าอิฐหน้าพรหม งานที่ตั้งใจไม่สำเร็จ คนพาลไม่ชอบไปอีก
หลักการเบื้องต้นฝึกระดับเสียงง่ายๆ
E-Mail : [email protected]
วันที่ : 08 มีนาคม 2566
จำนวนผู้เข้าชม 813 คน
กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line
แนวคิดและประโยชน์ Competency based Performance
การมุ่งเน้นประเมินผลตัวชี้วัดหลัก KPI ตามหน้าที่ปฏิบัติงานอาจได้คนเก่ง แต่ไร้ประสิทธิภาพความสามารถในการทำงานร่วมกันเป็นทีม การประเมินด้านขีดความสามารถมีส่วนในการช่วยพัฒนาบุคลากรให้เป็นไปตามทิศ
ข้อมูลที่จำเป็นในการเตรียมทำ KPI
ก่อนการจัดทำ KPI สิ่งที่ผู้จัดทำควรเตรียมการดำเนินการ ไม่ใช่แค่มองหาเป้าหมายเลือกเฟ้นหาหลักสูตรอบรม (Training) แม้การจัดอบรมเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ขับเคลื่อนองค์ความรู้สู่บุคลากรแต่ละกลุ่ม
ฝึกพูดระดับเสียงหนึ่งในงานบริการ
เสียงหนึ่ง เสียงสองคืออะไร ? หากได้ยินคนเอ่ยถึงคุณทราบหรือไม่?? น้ำเสียงที่สนทนาพูดคุยอยู่นั้นคือน้ำเสียงระดับใด ซึ่งการใช้น้ำเสียงเพื่อการสนทนากับผู้รับบริการต่างจากการพูดคุยทั่วไป
เปรียบเทียบการสื่อสารแบบทั่วไป และ AIDET Plus
เอเด็ต (AIDET) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการวางกรอบการสื่อสารสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มHealthcare เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับรู้แบบสองทาง (Two way communications)
การถ่ายทอดลำดับการสื่อสารเชิงลึกงาน Healthcare
การถ่ายทอดลำดับการสื่อสารเชิงลึกงาน Healthcare (In-Depth communications in Healthcare) เมื่อไรก็ตามที่คุณใช้รูปแบบการสื่อสารแบบ AIDET Plus+ ในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน ผู้ป่วยและครอบครัว
ความแตกต่าง AIDET & AIDET Plus
ความแตกต่างระหว่างรูปแบบการสื่อสารของบุคลากรทางการแพทย์แบบเดิม AIDET และแบบใหม่ AIDET Plus เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร สามารถขับเคลื่อนแผนการปฏิบัติไปให้ถึงเป้าหมายการพัฒนาบุคลากร