หน้าแรก หน้ารวมบทความ ฝึกทักษะการนำเสนอด้วยคีย์เวิร์ด (Keyword)

ฝึกทักษะการนำเสนอด้วยคีย์เวิร์ด (Keyword)


ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์   วันที่ :   จำนวนผู้เข้าชม 1097 คน

กด Like กด Share บทความให้เพื่อน

Facebook Twitter Line

     ทุกงานทั้ง “นำเสนอข้อมูลต่อผู้บริหาร นักเรียนนักศึกษาเสนองานหน้าชั้นเรียน Trainerสอนผู้เข้าอบรม หัวหน้างานฝึกอบรมลูกน้อง ฝ่ายขายเสนอข้อมูลสินค้า นางงามตอบคำถามในรอบห้องดำ  แนะนำตัวสัมภาษณ์งาน …” 

     เหล่านี้ล้วนแต่ต้องมีทักษะการพูดที่แตกต่างจากคุยกับเพื่อนที่บ้าน ทำอย่างไรให้การนำเสนอข้อมูลที่เกิดขึ้นเป็นจังหวะทองของชีวิต ไม่พลาดแม้แต่วินาทีเดียว

 วันนี้ ขอเสนอ ทักษะนำเสนอให้ถูกใจผู้ฟัง  6 ข้อ (A-I-I-M-C-A) ดังนี้  

     1. Attention

         : กล่าวทักทายแรกพบอย่างสุภาพเป็นกันเอง ด้วยความมั่นใจสายตาทรงพลัง น้ำเสียงชัดเจน ความรู้สึกมีความยินดียิ่งที่ได้มานำเสนอครั้งนี้ หน้าเชิดพอดีไหล่เปิดผายตรง

     2. Introduce

         : แนะนำตัวเองให้ผู้ฟังทราบว่าเราเป็นใคร ตำแหน่งอะไร ความสามารถพิเศษที่โดดเด่นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือดึงดูดให้ผู้ฟังสนใจอยากฟัง

     3. Intro

         : เกริ่นเรื่องราวหรือประเด็นที่น่าสนใจ มีความเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันกับกลุ่มผู้ฟัง มาเล่าเชื่อมโยงกับเรื่องที่ต้องการสื่อสาร ในข้อนี้ให้ผู้พูดฝึกวิเคราะห์ความสนใจแต่ละกลุ่มวัย(Generation)ผู้ฟัง หากมีหลายกลุ่มวัยรวมกันให้เลือกเกริ่นประเด็นที่น่าสนใจในปัจจุบันนี้

     4. Main Message (Preview-Background-Method)

         : การเข้าสู่เนื้อหาที่ต้องการนำเสนอไม่ควรกล่าวอธิบายหัวข้อที่ต้องการนำเสนอเป็นประโยคแรก เช่น ผู้จัดการสอนหัวหน้างาน หัวข้อ “Train to The Trainer” กล่าวนำ วันนี้มาสอนหัวข้อ Train to The Trainer แบบนี้ธรรมดาและเชยไปเสียแล้ว หากเอ่ยขึ้นมาทำให้การอบรมราบเรียบไม่ดึงดูด เป็นไปได้ไหมว่าคือหัวข้อที่ทุกคนตั้งใจลงเรียนหรือฝ่ายบุคคลบังคับมาเรียน?  ให้เลือกกล่าวนำเสนอเข้าสู่เนื้อหา ด้วย เทคนิค 4P  ดังนี้

  • Problem เชื่อมโยงปัญหา ที่เราเคยเจอกับปัญหาที่ผู้ฟังเคยเจอ เช่น เช่นปัญหาจากการทำงานกับพนักงานใหม่ ปัญหาการนำเสนอโครงการเมื่อจบการศึกษา ปัญหาการสัมภาษณ์งานนักศึกษาจบใหม่ ปัญหาการนำเสนอการขาย ปัญหาการทำวิจัย  ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้พูดนำเสนอหัวข้อเรื่องอะไร ? 
  • Passion แรงบันดาลใจ ในการนำเสนอหรือการผ่านเหตุการณ์เรื่องราวที่พบเจอ ทำให้ผู้พูดรู้สึกดีใจ เสียใจ ตื่นเต้นหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไร จึงนำมาเสนอข้อมูลครั้งนี้ 
  • Present นำเสนอเนื้อหาเป็นขั้นๆ ตามลำดับคล้าย Step to Step แบบขั้นบันไดให้ผู้ฟังเห็นภาพตามทีละประเด็นค่อยๆขยับดีกรีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คล้ายการสร้างซีรีย์เกาหลีให้ผู้ชมติดตามตั้งแต่ Ep ต้นจนจบบริบูรณ์
  • Preview แบ็กกราวนด์ การนำเสนองานบางอย่างอาจต้องมีการเกริ่นนำแบ็กกราวนด์(ข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา) โดยเล่าเรื่องเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลให้เข้าใจง่าย ไม่เร็ว ไม่เร่งเร้า ไม่ต่อว่าพาดพิงเหตุการณ์หรือบุคคล  บางครั้งสามารถใช้กรณีศึกษา(Case Study)เข้ามาเล่าเรื่องได้

     5. Conclusion

         : สรุปการนำเสนอไล่ลำดับข้อมูลเฉพาะไฮไลต์ที่สำคัญตั้งแต่ต้นกระทั่งจบอีกครั้ง กันเหนียวเผื่อผู้ฟังฟังนำเสนอเพลินอาจลืมประเด็นสำคัญที่ผู้พูดต้องการสื่อสาร พร้อมเน้นย้ำวาระหรือข้อมูลสำคัญที่ต้องการรับการพิจารณาเพิ่มเติม

     6. Answer & Question 

        : ตอบคำถามหรือถามผู้ฟังกรณีไม่มีคำถาม เช็คความสนใจ ความมั่นใจในการนำเสนอครั้งนี้ 

  • กรณีคำถามที่ยากไม่ได้เตรียมข้อมูลมา ไม่สามารถตอบในเวลาได้ให้แจ้งขอตอบกลับภายหลังทางE mailหรือส่งข้อมูลพูดคุยภายหลัง 
  • กรณีคำถามกำกวมไม่เข้าใจคำถามให้ถามทวนซ้ำอีกครั้งเพื่อความชัดเจนในการตอบ
  • กรณีคำถามพาดพิงบุคคล หน่วยงาน องค์กรอื่น ซึ่งส่งผลกระทบต่อบุคคลที่สามไม่แนะนำให้ตอบ ให้เลี่ยงการตอบแบบสุภาพเพราะอาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อภาพลักษณ์ในอนาคตได้

     วิธีฝึกทักษะการนำเสนอนั้นต้องหมั่นฝึกฝน ค้นคว้าหาองค์ความรู้หลายๆด้านเรียกว่าควรมี Multi Skill เทคนิคฝึกเองที่บ้านให้เป็นกิจนิสัย 3 เรื่องง่ายๆ คือ

     1) หมั่นอ่านหนังสือหรือบทความที่หลากหลายเป็นประจำ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา ภาคธุรกิจสถานประกอบการ งานขนส่ง ย้ำว่าควรอ่านประเด็นเนื้อหาให้จบอย่าอ่านผ่านๆแค่หัวข้อนะคะ

     2) ฝึกฟังระดับโทนเสียงตนเองและปรับโทนเสียงให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญ เช่น การคุยกับหัวหน้างาน การเสนองานหน้าชั้น การคุยเจรจาต่อรองลูกค้า เรื่องการใช้เสียง 5 ระดับ (ผู้เขียนได้อธิบายไปแล้วในบทความเรื่องการพูด การใช้เสียง) เมื่อฝึกฝนเกิดความมั่นใจให้บันทึกอัดเสียงตนเองให้ผู้ฟังให้คะแนนความชอบ

     3) ฝึกพูดอธิบายจากคีย์เวิร์ด(Keyword)  เช่น

  • ภาวะโลกร้อน
  • บุคลิกภาพดี
  • ไวรัสโคโรนา 
  • การเมือง 
  • PDPA
  • Service mind 
  • ความเท่าเทียม
  • ทัศนคติ
  • อาหารขยะ
  • ความฉลาดทางอารมณ์

     ลองฝึกดูนะคะ ถ้ามีพรสวรรค์การพูดถือว่าโชคดีมาก แต่ถ้าไม่มีให้ค้นหาพรแสวงในตนเองหมั่นฝึกฝน ในที่สุดย่อมส่งผลสำเร็จแก่หน้าที่การงาน และวันหนึ่ง “การนำเสนอ” อาจเป็นโอกาสสำคัญในชีวิต…

วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์


E-Mail : [email protected]

วันที่ : 17 กรกฎาคม 2566

จำนวนผู้เข้าชม 1097 คน

กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line

บทความที่เกี่ยวข้อง


แนวทางสร้าง Training Needs ก่อนทำ TRM

แบบสอบถาม Training Needs เพื่อสอบถามพนักงานในองค์กร ผลของคำตอบในแบบสอบถามนั้น นำมาเพื่อใช้ประเมินหาหลักสูตรที่จำเป็น (Training Needs) ในการอบรมต่อตำแหน่งงานไม่ใช่หลักสูตรที่ต้องการฝึกอบรม

การบริการเชิงรุก (Proactive Service ) ทำอย่างไร?

การบริการเชิงรุกไม่ใช่การกระตือรือร้นการบริการหรือเสนอการบริการให้ลูกค้าก่อน แต่เป็นรูปแบบการวางระบบบริการไว้ล่วงหน้าด้วยเทคนิค “สร้าง Brand loyalty & Brand Personal” ทุกขั้นตอนตั้งแต่แรกรับ

ใช้ทฤษฎีมาสโลว์สร้างแรงจูงใจ

เพิ่มแรงจูงใจสำหรับพนักงานในองค์กรโดยใช้เฟรมเวิร์ก ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของอับราฮัม มาสโลว์” เข้ามาเป็นแนวทางการพัฒนาบุคลากร โดยแนวคิดลำดับความต้องการของมนุษย์แบ่งเป็นความต้องการ 5 ขั้น

Training Roadmap จัดทำอย่างไร? (How to Create a Training Roadmap)

การทำแผนที่เส้นทางการฝึกอบรม (Training Roadmap) ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการพัฒนาบุคลากร ทำให้ทุกหลักสูตรการฝึกอบรมมีประสิทธิภาพ ผู้เข้าอบรมได้รับประโยชน์แท้จริงและบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร

ฝึกทักษะการนำเสนอด้วยคีย์เวิร์ด (Keyword)

ทุกงานทั้ง นำเสนอข้อมูลต่อผู้บริหาร นักเรียนนักศึกษาเสนองานหน้าชั้นเรียน Trainer สอนผู้เข้าอบรม หัวหน้างานฝึกอบรมลูกน้อง ฝ่ายขายเสนอข้อมูลสินค้า นางงามตอบคำถามในรอบห้องดำ แนะนำตัวสัมภาษณ์งาน

กุญแจ 5 ดอกไขความสำเร็จการนำเสนอ (Five keys to a winning pitch)

ลองนึกดูว่าก่อนที่นางงามระดับโลกหนึ่งคนประสบความสำเร็จจากการได้รับตำแหน่ง สวยอย่างเดียวไม่เพียงพอต้องมีเสน่ห์ชวนมอง แฟนคลับติดตามผ่านช่องทางออนไลน์เยอะๆ ทุกคนหมั่นฝึกฝนทักษะการเดินโชว์ ฝึกพูดให้กินใจ