หน้าแรก หน้ารวมบทความ เล่าเรื่องม้าพระโพธิสัตว์

เล่าเรื่องม้าพระโพธิสัตว์


ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์   วันที่ :   จำนวนผู้เข้าชม 543 คน

กด Like กด Share บทความให้เพื่อน

Facebook Twitter Line

     หนังสือพระเจ้า 500 ชาติ (มหาปุ้ย แสงฉาย,2504)  เล่าเรื่องการไม่ละทิ้งความเพียรและการมีคุณธรรมไว้ได้อย่างน่าประทับใจ

     ในเรื่องม้าพระโพธิสัตว์

     “  …ในครั้งก่อนโน้น ม้าพระที่นั่งของพระเจ้าพรหมทัตมีอยู่ตัวหนึ่งเป็นม้าอาชาไนย

     เป็นม้าตัวประเสริฐ บริโภคข้าวสาลีปรุงด้วยอาหารอย่างดีด้วยพานทองคำอยู่ทุกเวลา

     โรงม้านั้นพรมด้วยของหอม 4 อย่าง  มีม่านกั้นในเบื้องบนห้อยด้วยพวงดอกไม้

     ประดับด้วยดาวเงินดาวทอง ตามประทีปน้ำมันหอมอยู่ทุกเวลา อยู่มาคราวหนึ่ง

     พวกท้าวสามลตราช ได้พร้อมกันยกกองทัพมาล้อมกรุงพาราณสี พระเจ้าพรหมทัตได้ทรงมอบ

     ให้อำมาตย์ผู้เป็นนายม้าออกไปชิงชัยแต่ผู้เดียวก่อน นายม้าจึงถวายบังคมลา ไปจัดแจงสรรพาวุธพร้อม 

      แล้วไปเชิญพญาม้าว่าพระองค์จงออกสู้รบกับพวกพญาสามลตราชทั้งหลาย ในบัดนี้เถิด

     พอพญาม้าได้ฟังก็นึกถึงคุณของพระเจ้าพาราณสี จึงนึกว่าสงครามครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก

     นอกจากเราผู้เดียวไม่มีใครสามารถเอาชนะได้ เราจักต้องสนองพระคุณของพระเจ้าพาราณสี

     และช่วยประชาชนให้พ้นจากมหาพินาศให้ได้ ครั้น คิดอย่างนั้นแล้วก็ให้นายม้า ขึ้นขี่หลัง

     แล้วร้องเสียงดัง 3 ครั้ง จึงเผ่นโผนกระโจนออกจากโรงม้าด้วยกำลังเร็ว

     เหมือนกับลมไปทำลายค่ายที่ 1 ให้แตกกระจายแล้วนายม้าจับเอากษัตริย์ในค่ายนั้น

     เข้าไปถวายพระเจ้าพรหมทัต แล้วออกไปตีค่าย 2-3-4-5-6 ต่อไป  จับกษัตริย์เหล่านั้น

     ไปถวายเป็นลำดับกัน แต่ในค่ายที่ 6 นั้น พญาม้าถูกอาวุธข้าศึกเจ็บสาหัส 

     เมื่อวิ่งกลับไปถึงประตูเมืองก็ล้มลง นายม้าจึงแก้เกราะให้หย่อนลง เพื่อให้พญาม้า

     หายใจได้สะดวก แล้วนายม้าจึงผูกม้าตัวอื่นเพื่อไปตีค่ายที่ 7

     พญาม้าจึงคิดว่านอกเราแล้วไม่มีใครทำได้สำเร็จ ถ้าเราไม่ออกรบอีก

     สิ่งที่เราทำไว้จะเสียเปล่า ทั้งนายม้าจักถูกฆ่าตาย คิดแล้วจึงบอกนายม้าให้เตรียมตัวออกรบ

     นายม้าก็ผูกเกราะพญาม้าให้มั่นคงอีก แล้วจับอาวุธขึ้นหลังม้าทันที ออกตีค่ายที่ 7 แตก

     จับกษัตริย์องค์ที่ 7 ไปถวายพระเจ้าพรหมทัต แล้วพญาม้าก็ล้มลงแต่ยังไม่ถึงตาย

     พระเจ้าพรหมทัตจึงตรัสพระราชทานความชอบให้แก่นายม้ากับพญาม้า พญาม้าจึงทูลว่า

     ขอให้พระราชทานแก่นายม้าผู้เดียวเถิด ทั้งขอให้ปล่อยกษัตริย์ 7 พระนครนี้ไป

     แต่ให้กระทำสัตว์สาบานเสียก่อน จึงทรงปล่อยไป ส่วนพระองค์ก็จงตั้งอยู่

     ในทศพิธราชธรรม 10 ประการ กราบทูลอย่างนี้แล้วก็ถึงแก่ความตาย

     มาชาติสุดท้าย พระเจ้าพรหมทัตได้เกิดเป็นพระอานนท์ นายม้าได้เกิดเป็นพระสารีบุตร

     ส่วนพญาม้าได้มาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า …  ”

     เรื่องพระเจ้า 500 ชาตินั้นเป็นเรื่องแต่งโดยทำนองเล่าเป็นนิทาน ต่างจากเรื่องที่เทศน์หรือแปล จากคัมภีร์ จากที่ท่านได้เคยไปนั่งฟังกัณฑ์เทศน์จะพบว่าเนื้อความในกัณฑ์เทศน์ค่อนข้างละเอียดยิ่งนัก ซึ่งทำนองแปล 250 กัณฑ์ มีตีพิมพ์ในพระไตรปิฎก ถึง 5 เล่ม  

     ไม่ว่าจะเป็นเทศน์หรือหนังสือแต่งทำนองเล่านิทานล้วน ได้ข้อคิด คติสอนใจ ให้ทุกคนหันกลับมาทำความดีละเว้นความชั่ว ตั้งตนมั่นคงอยู่ในศีลธรรมทุกเวลา เมื่อมีโอกาสผู้เขียนจักนำมาเล่าโอกาสต่อไปค่ะ 

วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์


E-Mail : [email protected]

วันที่ : 08 มีนาคม 2566

จำนวนผู้เข้าชม 543 คน

กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line

บทความที่เกี่ยวข้อง


เล่าเรื่องม้าพระโพธิสัตว์

หนังสือพระเจ้า 500 ชาติ (มหาปุ้ย แสงฉาย,2504)  เล่าเรื่องการไม่ละทิ้งความเพียรและการมีคุณธรรมไว้ได้อย่างน่าประทับใจ เรื่องพระเจ้า 500 ชาตินั้นเป็นเรื่องแต่งโดยทำนองเล่าเป็นนิทาน ต่างจากเรื่องที่เทศน์

กลวิธีสะกดลูกน้องแบบกากินน้ำ (คนเป็นใหญ่ต้องอ่าน)

หลายคนคงได้ยินประโยคที่ว่า “เหมือนสวมหมวกสองใบ” การรับหน้าที่บทบาทเป็นผู้นำนั้น มิใช่แค่บริหารงานเป็น อย่างเดียว ต้องบริหารตนเองให้อยู่เหนือความคาดหมายของผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย