หน้าแรก หน้ารวมบทความ พฤติกรรมบริการต่อลูกค้าทั่วไป คลินิก โรงพยาบาล

พฤติกรรมบริการต่อลูกค้าทั่วไป คลินิก โรงพยาบาล


ผู้เขียน : อาจารย์ วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์   วันที่ :   จำนวนผู้เข้าชม 367 คน

กด Like กด Share บทความให้เพื่อน

Facebook Twitter Line

     พฤติกรรม (Behavior) หมายถึง การกระทำ หรืออาการที่แสดงออกทางกล้ามเนื้อ ความคิด  ความรู้สึกเพื่อตอบสนองสิ่งเร้าที่มากระตุ้น   

     การบริการ (Service) หมายถึง การดำเนินการ การส่งมอบ กระบวนการการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย ปลอดภัย พึงพอใจ ประทับใจ ซึ่งการบริการเป็นรูปแบบการส่งมอบไม่สามารถจับต้องได้ขึ้นอยู่กับแต่ละลักษณะพฤติกรรม ความเชื่อ ทัศนคติ หน้าที่หรือสำนึกรับผิดชอบของผู้ให้บริการแต่ละบุคคล กลุ่ม หรือองค์กร  

     พฤติกรรมการบริการ (Service Behavior) หมายถึง การสื่อสารที่แสดงออกด้วยการกระทำ ท่าทาง น้ำเสียง สีหน้า ความรู้สึก เพื่อส่งมอบให้แก่ผู้รับด้วยทางตรงหรือทางอ้อม ผ่านกระบวนการปฏิบัติงาน

     การบริการไม่ใช่สินค้าที่สามารถคงรูปรส กลิ่น เสียงได้เมื่อเปลี่ยนผู้ให้บริการพฤติกรรมการส่งมอบบริการอาจเปลี่ยนไปตามลักษณะของบุคคลนั้น สิ่งที่ทำให้พฤติกรรมการบริการคงที่คงอยู่นั้นคือการสร้างEmpathy ให้เกิดขึ้นกับบุคลากรทุกระดับ ทุกคนตระหนักในหน้าที่ด้วยจิตบริการมากกว่าการทำงานเพื่อจบหน้าที่ไปแต่ละวัน 

ประเภทลูกค้า/ผู้รับบริการทั่วไป สิ่งที่ควรดูแลเป็นพิเศษ

     1) ลูกค้าผู้รับบริการธรรมดา (General Customer) ต้องการดูแลและการบริการขั้นพื้นฐานทั่วไป ไม่ต้องการความพิเศษอะไรมาก 

     2) ลูกค้า VIP (Very Important Person) คือลูกค้าคนสำคัญ ต้องการดูแลและให้บริการแบบพิเศษกว่าลูกค้าทั่วไป บางครั้งเพิ่มความพิเศษมากกว่า VIP มอบการดูแลและเพิ่มคุณค่าการบริการแบบทวีคูณอาจเติม V เข้าไปเช่น VVIP หมายถึงมีความพิเศษเหนือชั้นมากกว่า VIP 

     3) ลูกค้า PIP (Politically Important Person) คือลูกค้าคนสำคัญทางด้านการเมือง นักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง  ผู้ให้บริการต้องให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว การดูแลด้านความปลอดภัยเป็นพิเศษ

     4) ลูกค้า RIP (Religiously Important Person) คือลูกค้าคนสำคัญทางศาสนา ผู้นำศาสนา สมเด็จพระสังฆราช พระภิกษุสงฆ์ ลูกค้ากลุ่มนี้ควรได้รับการดูแลเรื่องมื้ออาหารและอาหารเฉพาะ เช่น งดเนื้อหมู อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ

     5) ลูกค้า Royal Family คือลูกค้าที่เป็นสมาชิกราชนิกูล สถาบันกษัตริย์ผู้ปกครองประเทศ ผู้ให้บริการจำเป็นต้องเรียนรู้หลักการปฏิบัติการดูแลให้บริการ การใช้คำราชาศัพท์ในการสนทนา การดูแลอย่างเป็นส่วนตัว

     6) ลูกค้า Celebrity (Celeb) คือลูกค้าผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง วงการกีฬา วงการธุรกิจชั้นนำต่างๆ ผู้ให้บริการต้องให้บริการอย่างเข้าใจในกลุ่มนี้ ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง บางครั้งจำเป็นต้องปกปิดเผยแพร่ภาพและกิจกรรมต่างๆที่มารับบริการ อันเนื่องมาจากปกป้องภาพลักษณ์ของลูกค้า การบริการต้องคำนึงถึงความส่วนตัวและความปลอดภัยเป็นหลัก

ประเภทตามสิทธิ์สวัสดิการลูกค้า/ผู้รับบริการในโรงพยาบาล 

     1) ผู้รับบริการทั่วไป (ชำระค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลทั้งหมดด้วยตนเอง)

     2) ผู้รับบริการสิทธิ์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท)

     3) ผู้รับบริการประกันสังคม (สิทธิ์จากการเป็นผู้ประกันตน)

     4) ผู้รับบริการสิทธิ์เบิกต้นสังกัด (สามารถนำใบเบิกค่ารักษาจากต้นสังกัดตนเองได้)

     5) ผู้รับบริการสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ (ข้าราชการภาครัฐ-รัฐวิสาหกิจ)

     6) ผู้รับบริการสิทธิสวัสดิการบุคลากรและครอบครัว (บุคลากรและครอบครัวของภาครัฐ มหาวิทยาลัย)

     7) ผู้รับบริการจากบริษัทประกันคู่สัญญา (ผู้เอาประกันด้านสุขภาพจากบริษัทประกัน)

     8) ผู้รับบริการสิทธิประโยชน์และสวัสดิการผู้รับบำนาญ (ตามสิทธิ์ข้าราชการ)

     9) ผู้รับบริการสิทธิประโยชน์ กรณีพิเศษอื่นๆ (ผู้บริจาคเงิน บริจาคทรัพย์สินให้โรงพยาบาล)

ลักษณะผู้รับบริการในคลินิก ศูนย์สุขภาพ โรงพยาบาล 

     ในสถานพยาบาลกลุ่มลูกค้า/ผู้รับบริการมีความเฉพาะเจาะจง แตกต่างจากธุรกิจทั่วไป แยกเป็นประเภทของผู้รับบริการ ดังนี้

     1. ผู้มาติดต่อ

         หมายถึง ผู้รับบริการภายนอกที่มาติดต่องาน ตรวจเยี่ยม สมัครงาน หรือมาเพื่อซื้อเวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ ไม่ได้มาเพื่อเข้ารับการดูแลตรวจรักษา  เป็นต้น

     2. ผู้รับบริการเป็นครั้งคราว

         หมายถึง ผู้รับบริการที่มาเมื่อมีอาการ เพื่อเข้ารับการดูแลการพยาบาล ตรวจรักษา ตรวจสุขภาพ หรือกลุ่มผู้ป่วยด้วยภาวะเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรง มีการตรวจรักษาเป็นครั้งๆหรือมีการนัด F/U เพิ่มเติมเมื่อหายจากภาวะความเจ็บป่วยด้วยโรคนั้น ผู้รับบริการไม่จำเป็นต้องมาพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่พยาบาลอีก เช่น ภาวะเจ็บป่วยไข้หวัด ปวดท้องทั่วไป ผื่นแพ้ อาการวิงเวียน มารับบริการล้างทำแผลขนาดเล็กไม่รุนแรง เป็นต้น

     3. ผู้รับบริการประจำ

         หมายถึง ผู้รับบริการที่มาใช้บริการเป็นประจำ มีการซื้อแพคเก็จด้านสุขภาพ หรือความเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากภาวะโรคที่เป็นอยู่ทำให้ผู้รับบริการนั้นต้องมาพบแพทย์เพื่อทำการติดตาม F/U เป็นประจำ เช่น กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังNCDs กลุ่มโรคภูมิแพ้ กลุ่มผู้รับบริการด้านผิวพรรณและศัลยกรรมความงาม เป็นต้น

     4. ผู้รับบริการภาวะฉุกเฉินแต่ไม่วิกฤติ* (ผู้รับบริการในโรงพยาบาล)

         หมายถึง ผู้รับบริการที่มาเพื่อเข้ารับการดูแลรักษาฉุกเฉินเร่งด่วนแต่มิใช่ผู้ป่วยในระยะวิกฤติ มีV/Sอยู่ในเกณฑ์ไม่รุนแรง หากตรวจประเมินแล้วมีอาการที่รุนแรงขึ้นไม่อยู่ในความสามารถที่สถานพยาบาลดูแลรักษาได้จะมีการประสานส่งต่อโรงพยาบาลในเครือข่ายทันที ผู้รับบริการกลุ่มนี้เช่น ผู้รับบริการอุบัติเหตุมาเพื่อทำแผลเร่งด่วน ผู้รับบริการมีอาการหน้ามืดวิงเวียน ผู้รับบริการมีอาการหายใจไม่ออก เหงื่อออกมากตัวเย็น เป็นต้น 

     5. ผู้รับบริการภาวะวิกฤติ * (ผู้รับบริการในโรงพยาบาล)

          หมายถึง ผู้รับบริการที่มี V/S อยู่ในเกณฑ์ผิดปกติระดับรุนแรง ต้องได้รับการรักษาทันทีหรือภายในระยะเวลา มิฉะนั้นอาจกระทบต่อสุขภาพหรือชีวิต

*อ้างอิงการแบ่งระดับผู้ป่วยตาม Emergency Severity Index  (ESI ) 5 ระดับ

ESI Level 1

Patient requires immediate life-saving intervention 

ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ ต้องช่วยทันที 

ESI Level 2 

Patient is in a high risk situation,is disoriented,in severe pain or vitals are in danger zone.

ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน  

ESI Level 3

If multiple resources are required to stabilize the patient,but vitals are not in the danger zone .

ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วน 

ESI Level 4

If one resource is required to stabilize the patient.

ผู้ป่วยทั่วไป 

ESI Level 5

If the patient does not require any resources to be stabilize.

ผู้รับบริการทั่วไป 

อ้างอิงA Triage Tool for Emergency Department Care Version4 Nicki Gilboy RN,MS,CEN,FAEN,2020

     บริการไม่ใช่หน้าที่งานประจำ ไม่ใช่สินค้าคงรูปจับต้องได้ สามารถสร้างมูลค่าทางจิตใจและเพิ่มผลผลิต ให้ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นที่รู้จัก บอกต่อ ลูกค้ามีความรักในแบรนด์นั้นๆ บุคคลนั้นๆ 

คุณลักษณะของบริการ (Service Characteristics) ที่สำคัญ  มี 4 ข้อ คือ 

     1. Intangibility : บริการจับต้องไม่ได้ ไม่สามารถซื้อขาย ไม่มีรูป รส กลิ่น เสียง

     2. Inseparability : บริการไม่สามารถแยกออกจากผู้ให้บริการได้ 

     3. Variability : คุณภาพของบริการไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ให้บริการ เมื่อไร ที่ไหน วิธีใด

    4. Perishability : บริการไม่ใช่สินค้าคงรูปเก็บไว้ใช้ได้เหมือนเดิม      

รูปที่ 1 คุณลักษณะของบริการ (Service Characteristics)

     การสร้างทักษะ มาตรฐาน ขั้นตอน กระบวนการพัฒนาพฤติกรรมบริการ สามารถช่วยวางแนวทางผู้ให้บริการคงไว้ซึ่งการบริการควบคู่กับการปฏิบัติงานได้อย่างไร้รอยต่อ เพิ่มจำนวนลูกค้า เพิ่มอัตราความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ แม้หากผู้ปฏิบัติงานออกไปใช้ชีวิตประจำวันบุคลิกภาพด้านพฤติกรรมการบริการเป็นอีกตัวชี้วัดหนึ่งที่เพิ่มคุณค่าสร้างเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น การเรียนรู้ด้านการเสริมสร้างทักษะพฤติกรรมบริการไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

วีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์


E-Mail : [email protected]

วันที่ : 27 กันยายน 2567

จำนวนผู้เข้าชม 367 คน

กรุณากดถูกใจ และ เพิ่มเพื่อน Line

บทความที่เกี่ยวข้อง


ทฤษฎีตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์และการบริการ

การเลือกใช้สินค้า และบริการนั้นเกิดจากการเรียนรู้ของผู้เลือกใช้ อาจมาจากข้อมูลสื่อโฆษณาในช่องทางต่างๆ ประสบการณ์คำบอกเล่า ประสบการณ์ตรงที่ได้รับมาจากผู้ใช้บริการ

พฤติกรรมบริการต่อลูกค้าทั่วไป คลินิก โรงพยาบาล

การบริการไม่ใช่สินค้าที่สามารถคงรูปรส กลิ่น เสียงได้เมื่อเปลี่ยนผู้ให้บริการพฤติกรรมการส่งมอบบริการอาจเปลี่ยนไปตามลักษณะของบุคคลนั้น สิ่งที่ทำให้พฤติกรรมการบริการคงที่คงอยู่นั้นคือ การสร้าง Empathy

การสื่อสารแบบ AIDET Plus ทุกแผนกในโรงพยาบาลทำอย่างไร ?

ในอดีตผู้ปฏิบัติงานมีหน้าที่ปฏิบัติงานตามหลักใบกำหนดหน้าที่งาน (Job Descriptions) โดยปฏิบัติงานแต่ละหน้าที่ตามขั้นตอนงาน (Work Instruction) ที่จัดทำขึ้นมาจากมาตรฐานของแต่ละวิชาชีพตามหลักการความปลอดภัย

ความคาดหวังผู้รับบริการ 6 แบบ

อันดับแรกที่ผู้รับบริการทุกคนคาดหวังแน่นอนคือความสะดวกสบาย ความรวดเร็วปลอดภัย ความมั่นใจในการได้รับบริการ ปัจจัยที่ส่งเสริมให้ผู้รับบริการคาดหวังนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของลูกค้าผู้รับบริการ

Human Touch In Healthcare ด้วย Touching & Feeling

Human Touch ถูกพูดถึงในการดูแลรักษาสุขภาพ มุมมองการมีจิตบริการมานาน ควบคู่กับคำว่า Empathy (การเอาใจใส่) ซึ่งหากพูดถึงแง่การลงมือปฏิบัติงาน Human Touch มีแนวทางนำไปใช้ได้อย่างไร ?

บุคลิกภาพท่ายืนเดินนั่งที่สง่างาม

“อิริยาบถท่าทางที่สง่างามช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ชวนมอง ไม่ว่าท่านทำงานในตำแหน่งใด ควรได้เรียนรู้พื้นฐาน 3 เรื่องนี้ไว้ทั้งการยืน เดิน นั่ง ซึ่งเป็นบุคลิกพื้นฐานที่ฝึกฝนให้ดูดีได้ไม่ยาก ”